12 ทางเลือกแทน Calendly ที่ดีที่สุดปี 2026 [ฟรี & แบบมีค่าใช้จ่าย]

หมดยุคของการส่งอีเมลหรือข้อความไปมาหลายรอบเพื่อหาช่วงเวลานัดหมายที่ลงตัวแล้ว ปัจจุบันเทคโนโลยีได้พัฒนาเครื่องมือจัดตารางนัดหมายสมัยใหม่มากมาย ช่วยให้การนัดหมายเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว Calendly คือหนึ่งในซอฟต์แวร์จัดตารางนัดหมายยอดนิยม ไม่ว่าคุณจะต้องการนัดคุยขายกับลูกค้า นัดประชุมกับพาร์ทเนอร์ หรือสัมภาษณ์ผู้สมัครงาน Calendly ก็ช่วยให้คุณหาช่วงเวลาที่เหมาะสมได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว

แม้ Calendly จะมีผู้ใช้จำนวนมากทั่วโลก แต่ก็ยังมีผู้ใช้อีกไม่น้อยที่กำลังมองหา ทางเลือกที่ใช้งานง่ายและยืดหยุ่นมากขึ้น คู่มือนี้จึงได้รวบรวม 12 ทางเลือกแทน Calendly ที่ดีที่สุดที่คุณสามารถเลือกใช้ได้ในปี 2026

Part 1: Calendly คืออะไร?

Calendly คือซอฟต์แวร์สำหรับจัดตารางนัดหมายออนไลน์ที่ช่วยให้การนัดหมายเป็นเรื่องง่ายและอัตโนมัติ เพียงแค่แชร์วันและเวลาที่คุณว่างสำหรับการประชุม แล้วให้คู่สนทนาเลือกเวลาที่สะดวก ระบบนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการส่งข้อความไปมาหลายรอบเพื่อหาข้อสรุปเรื่องเวลานัดหมาย

คุณสมบัติเด่นของ Calendly ได้แก่:

• จัดตารางนัดหมายอัตโนมัติด้วยลิงก์และหน้าจองที่แชร์ได้
• แจ้งเตือนอัตโนมัติก่อนถึงเวลานัดหมาย
• จัดสรรการประชุมให้กับทีมที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ
• เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้หลากหลาย เช่น Outlook, Google, iCloud ฯลฯ
• รองรับการจัดตารางนัดหมายสำหรับทุกทีมในองค์กร เช่น ฝ่ายขาย, การตลาด, HR, IT ฯลฯ
• ฝังปฏิทินนัดหมายลงบนเว็บไซต์ได้โดยตรง

สรุปแล้ว Calendly มีฟีเจอร์มากมายที่ช่วยให้การนัดหมายเป็นเรื่องง่ายขึ้น แต่ก็ไม่ใช่เครื่องมือเดียวในสายงานนี้ ต่อไปจะขอแนะนำ 12 ทางเลือกแทน Calendly ทั้งแบบฟรีและมีค่าใช้จ่าย

Part 2: 12 ทางเลือก Calendly ที่ดีที่สุด 2026 [ฟรี & แบบมีค่าใช้จ่าย]

ปัจจุบันมีแอปมากมายที่ช่วยจัดตารางนัดหมายอัตโนมัติคล้าย Calendly เราจึงคัดสรร 12 ทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับใช้แทน Calendly ในปี 2026 ดังนี้:

1. HubSpot Meeting Scheduler

HubSpot Meeting Scheduler เป็นระบบนัดหมายที่พัฒนาโดย HubSpot – แบรนด์ CRM ชั้นนำ เหมาะสำหรับทีมขายและการตลาด

HubSpot Meeting Scheduler ให้คุณสร้างลิงก์นัดหมายและแชร์ให้ลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายเลือกวันและเวลานัดหมายได้ง่าย สามารถฝังระบบนัดหมายนี้ในหน้า Landing Page หรือส่งลิงก์ตรงผ่านอีเมลมาร์เก็ตติ้ง, ข้อความตอบกลับอัตโนมัติ หรือ playbook ที่ทีมขายใช้งาน

คุณสมบัติหลัก:

• สร้างลิงก์นัดหมายได้ง่ายและรวดเร็ว
• เข้าถึงปฏิทินของสมาชิกทีมทุกคนโดยตรง
• เชื่อมต่อกับ HubSpot CRM, Google Calendar และ Outlook 365 ได้โดยตรง
• สร้างลิงก์แบบ round-robin หรือกลุ่ม เพื่อแบ่งงานนัดหมายในทีม
• บันทึกรายละเอียดกลุ่มเป้าหมายเข้าสู่ฐานข้อมูล CRM อัตโนมัติ
• สร้างรายงานวิเคราะห์ข้อมูลการนัดหมายเชิงลึก

ข้อดี:

• ติดตั้งปฏิทินนัดหมายบนเว็บไซต์ได้ง่าย ไม่ต้องเขียนโค้ด
• ลูกค้าเลือกเวลานัดหมายได้อย่างยืดหยุ่น
• ออกแบบหน้าตารางนัดหมายให้เหมาะกับแต่ละธุรกิจได้

ราคา:

• ฟรี: $0 (1 ลิงก์นัดหมายส่วนตัว พร้อม HubSpot branding)
• Starter: $15/เดือน/ที่นั่ง (1,000 ลิงก์นัดหมายส่วนตัวและทีม)
• Professional: $90/เดือน/ที่นั่ง (1,000 ลิงก์นัดหมายส่วนตัวและทีม)

2. Doodle

Doodle เป็นอีกหนึ่งทางเลือกแทน Calendly ที่โดดเด่น ใช้งานง่าย ฟีเจอร์หลากหลาย และปลอดภัยสูง

Doodle คือเครื่องมือจัดตารางออนไลน์ระดับมืออาชีพ ช่วยให้นัดหมายได้ทุกวัตถุประสงค์ เช่น การสรรหา, การขาย, การศึกษา, องค์กรไม่แสวงกำไร, ฟรีแลนซ์ ฯลฯ เหมาะกับทีมทุกขนาด สามารถแชร์เวลาว่างให้ผู้อื่นเลือกเวลาที่สะดวก และจัดตารางประชุมแบบ 1:1 หรือแบบทีมได้ง่าย

คุณสมบัติหลัก:

• จัดตารางงานได้ทุกประเภท เช่น งานขาย การสรรหา การศึกษา และงานพบลูกค้า
• ซิงก์กับปฏิทินของคุณและอัปเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์
• ส่งข้อความยืนยันและแจ้งเตือนอัตโนมัติ
• เชื่อมต่อกับ Google Meet, Webex หรือ Zoom พร้อมแนบลิงก์วิดีโอในนัดหมาย
• ปรับแต่งหน้าการจองและคำเชิญให้ตรงกับแบรนด์ของคุณ
• เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มยอดนิยม เช่น Google Calendar, Zoom, Google Meet, Teams ฯลฯ

ข้อดี:

• ใช้งานง่าย
• จัดตารางกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ใช้งานผ่านมือถือได้สะดวก
• เชื่อมต่อกับปฏิทินยอดนิยมได้อย่างไร้รอยต่อ
• ปรับโซนเวลาให้อัตโนมัติ

ราคา:

• ฟรี: $0 (1 ผู้ใช้ | 1 หน้าการจอง | 1 นัดหมาย 1:1)
• Pro: $14.95/เดือน/ผู้ใช้ (หน้าการจองไม่จำกัด | ปรับแต่งแบรนด์ได้)
• Team: $19.95/เดือน/ผู้ใช้ (เข้าถึงฟีเจอร์ทั้งหมดแบบไม่จำกัด)

3. Zoho Bookings

Zoho Bookings เป็นส่วนหนึ่งของ Zoho One – ชุดซอฟต์แวร์ธุรกิจทรงพลัง มาพร้อมฟีเจอร์ครบครันสำหรับธุรกิจที่ต้องการจัดการนัดหมายอย่างมีประสิทธิภาพ

Zoho Bookings คือระบบนัดหมายออนไลน์ที่ให้ลูกค้าของคุณจองเวลานัดหมายได้ด้วยตัวเอง เพียงแค่คุณตั้งค่าช่วงเวลาที่สะดวกโดยการซิงค์ปฏิทิน สร้างและแชร์หน้าการจอง แล้วให้ลูกค้าเลือกเวลานัดหมายได้อย่างอิสระ Zoho Bookings ยังสามารถแชร์เวลาว่างของทั้งทีม เพื่อให้ลูกค้าเลือกนัดหมายกับสมาชิกทีมที่ต้องการได้ตามใจ

ฟีเจอร์หลัก:

• สร้างหน้าการจองที่ปรับแต่งได้เอง
• ระบบจัดตารางเวลาสำหรับทีม ให้ลูกค้าเลือกสมาชิกทีมได้เอง
• ตั้งกฎการจองได้ เช่น กำหนดเขตเวลา, ตั้งเวลายกเลิก ฯลฯ
• ซิงค์กับ Google, Outlook และ Zoho Calendar
• เชื่อมต่อกับเครื่องมือวิดีโอคอล เช่น Google Meet, Teams, Zoom ฯลฯ
• แจ้งเตือนนัดหมายอัตโนมัติผ่านอีเมลและ SMS
• รับชำระเงินผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น PayPal, Stripe, Razorpay ฯลฯ

ข้อดี:

• จองนัดหมายและรับชำระเงินได้ในที่เดียว
• ตั้งค่ากฎการจองได้ง่าย
• ซิงค์ปฏิทินและเชื่อมต่อวิดีโอคอลได้สะดวก
• แจ้งเตือนนัดหมายตรงเวลา

ราคา:

• ฟรี: $0 (สำหรับ 1 พนักงาน)
• Basic: $8/เดือน/พนักงาน
• Premium: $12/เดือน/พนักงาน

4. Notta Meeting Scheduler

Notta Meeting Scheduler เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกฟรีแทน Calendly ที่เหมาะกับทั้งบุคคลทั่วไปและธุรกิจขนาดเล็ก

Notta Meeting Scheduler คือแอปจัดตารางอัตโนมัติออนไลน์ ช่วยให้คุณสร้างกิจกรรมที่แชร์ได้อย่างง่ายดาย และเชื่อมต่อกับ Google Calendar ของคุณ สามารถสร้างกิจกรรมการนัดหมายได้ในไม่กี่วินาที แค่ระบุชื่อกิจกรรม คำอธิบาย เลือกแพลตฟอร์มประชุมออนไลน์ ระยะเวลา และช่วงเวลาว่างประจำสัปดาห์ เมื่อมีการนัดหมาย กิจกรรมจะถูกเพิ่มใน Google Calendar ทันที

ฟีเจอร์หลัก:

• สร้างกิจกรรมที่แชร์ได้ทันที
• แชร์ลิงก์จองเวลาให้ผู้รับเชิญได้ง่าย
• เชื่อมต่อกับ Google Calendar
• รวมแพลตฟอร์มประชุมออนไลน์ในกิจกรรม
• บันทึกและถอดเสียงประชุมอัตโนมัติ

ข้อดี：

• อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย ไม่ต้องเขียนโค้ด
• ช่วยให้สร้างกิจกรรมการนัดหมายได้สะดวก
• เชื่อมต่อ Google Calendar
• แผนใช้ฟรีให้ฟีเจอร์มากกว่า
• บันทึกและถอดเสียงการประชุม

แพ็กเกจราคา:

• ฟรี: $0 (สร้างหน้า booking ได้หลายหน้า)
• Pro: $14.99/เดือน/ที่นั่ง
• Business: $29.99/เดือน/ที่นั่ง
• Enterprise: กำหนดเอง

5. Acuity Scheduling

Acuity Scheduling คือซอฟต์แวร์จองนัดหมายออนไลน์ที่เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็ก โดยเฉพาะบริษัทที่ให้บริการ

Acuity Scheduling เป็นซอฟต์แวร์แบบ all-in-one สำหรับจัดตารางนัดหมายลูกค้า ระบบอัตโนมัติเวิร์กโฟลว์ และรับชำระเงินอย่างปลอดภัย คุณสามารถตั้งเวลาว่างเอง ให้ลูกค้าจองนัดได้ตามเวลาที่กำหนด รวมถึงเปิดใช้งานการจองนัดหมายอัตโนมัติ ให้ลูกค้าจอง เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกนัดได้เอง พร้อมส่งใบเสร็จและการแจ้งเตือนอัตโนมัติ

ฟีเจอร์หลัก:

• กำหนดเงื่อนไขการจองนัดหมายกับลูกค้าได้เอง
• ระบบจองนัดหมายอัตโนมัติครบวงจร
• สร้างฟอร์มรับข้อมูลลูกค้าเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วม
• ป้องกัน no-show ด้วยการเก็บบัตรเครดิตและเงินมัดจำอย่างปลอดภัย
• สร้างหน้าจองนัดแบบมีแบรนด์ พร้อมฟอร์มรับข้อมูลและระบบชำระเงินที่ง่าย
• เชื่อมต่อกับแอปภายนอกหลากหลาย เช่น Google Analytics, PayPal, Stripe, Zapier ฯลฯ

ข้อดี:

• จองนัดหมายง่ายและอัตโนมัติ
• ใบเสร็จอัตโนมัติ
• แจ้งเตือนนัดหมาย
• รองรับการเชื่อมต่อกับแอปหลากหลาย

ราคา:

• ทดลองใช้ฟรี: 7 วัน
• Emerging: $20/เดือน (1 พนักงาน/สาขา)
• Growing: $34/เดือน (6 พนักงาน/สาขา)
• Powerhouse: $61/เดือน (36 พนักงาน/สาขา)
• Enterprise: กำหนดเอง

6. YouCanBookMe

หากคุณกำลังมองหาทางเลือก Calendly ที่ใช้งานง่ายและไม่หนักเครื่อง YouCanBookMe คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด

YouCanBookMe ช่วยให้คุณสร้างประสบการณ์จองนัดหมายที่ปรับแต่งได้เต็มที่สำหรับลูกค้า สามารถสร้างและปรับแต่งหน้าจองนัดหมายให้ใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ลูกค้าสามารถจอง เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกนัดหมายได้เอง และยังลดงานที่ต้องทำด้วยมือ เช่น อัปเดต CRM สร้างลิงก์ประชุมอัตโนมัติ ติดตาม no-show แจ้งเตือน และติดตามผล

ฟีเจอร์หลัก:

• อินเทอร์เฟซแบบคลิกเพื่อสร้าง ปรับแต่ง และแชร์หน้าการจองได้ง่าย
• จัดการแจ้งเตือน อัปเดต CRM ลิงก์วิดีโอ และอื่น ๆ อัตโนมัติ
• รองรับการจองหลายรายการในเวลาเดียวกัน เหมาะกับกิจกรรมแบบทีม
• เชื่อมต่อกับ Google Calendar, Gmail, Outlook, Zapier, Teams และอื่น ๆ

ข้อดี:

• หน้าการจองปรับแต่งได้ตามต้องการ
• รองรับการจองตลอด 24 ชั่วโมง
• อัปเดต CRM อัตโนมัติ
• เชื่อมต่อกับบริการหลากหลาย

ราคา:

• ฟรี: $0 (เชื่อมต่อปฏิทินได้ 1 รายการ)
• แบบเสียเงิน: $12/เดือน

7. Appointy

Appointy เป็นหนึ่งในตัวเลือกแทน Calendly ที่ใช้งานง่ายและฟรี เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็ก

Appointy คือซอฟต์แวร์จัดการนัดหมายออนไลน์ที่ช่วยให้การนัดหมายเป็นเรื่องง่าย คุณสามารถสร้างหน้าจองและให้ลูกค้าจองได้ภายในไม่กี่วินาทีจากทุกที่ ทุกเวลา หากยังไม่มีเว็บไซต์ Appointy ก็มีซับโดเมนเฉพาะให้สร้างหน้าจองแบบปรับแต่งเองได้เช่นกัน

ฟีเจอร์หลัก:

• หน้าจองปรับแต่งได้
• ตั้งเวลาทำการได้ทั้งระดับบริการและพนักงาน
• จองบริการต่อเนื่อง (Back-to-back) ได้สะดวก
• รองรับการจองแบบประจำ (Recurring booking)
• รองรับการชำระเงินล่วงหน้าเต็มจำนวน บางส่วน หรือแบบคงที่
• แจ้งเตือนอัตโนมัติผ่าน SMS/อีเมล

ข้อดี:

• มีซับโดเมนสำหรับหน้าจองเฉพาะ
• รองรับหลายภาษา
• ซิงค์กับ Google Calendar ได้
• มีคอนโซลจัดการผ่านมือถือ

ราคา:

• ฟรี: $0 (1 พนักงาน | 5 บริการ)
• Growth: $29.99/เดือน (1 พนักงาน | ไม่จำกัดบริการ)
• Professional: $59.99/เดือน (5 พนักงาน | ไม่จำกัดบริการ)
• Enterprise: $99.99/เดือน (รองรับหลายสาขา)

8. SimplyBook.me

SimplyBook.me คือระบบจองออนไลน์ที่ทรงพลัง เหมาะกับธุรกิจบริการทุกรูปแบบ

SimplyBook.me ให้คุณกำหนดบริการและผู้ให้บริการได้ง่าย กำหนดช่วงเวลาที่พร้อมให้บริการ และให้ลูกค้าจองได้ตลอด 24 ชั่วโมง คุณสามารถสร้างเว็บไซต์จองที่เหมาะกับมือถือใหม่ หรือฝังระบบจองลงในเว็บไซต์เดิมก็ได้ รองรับการจองผ่าน Instagram, Facebook, Google และอื่น ๆ พร้อมแอปสำหรับลูกค้าและแอดมินโดยเฉพาะ เพื่อประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้ SimplyBook.me เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก Calendly ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจบริการ

ฟีเจอร์หลัก:

• สร้างเว็บไซต์จองเฉพาะบุคคล
• แจ้งเตือนการจองให้ลูกค้าและพนักงานผ่าน SMS/อีเมล
• มีแอปแยกสำหรับลูกค้าและแอดมิน
• รับชำระเงินออนไลน์ผ่านหลายช่องทาง
• เชื่อมต่อกับ FreshBooks, Google My Business, Facebook, Instagram และอื่น ๆ

ข้อดี:

• จองและรับชำระเงินในแพลตฟอร์มเดียว
• จัดการการจองได้ตลอด 24 ชั่วโมง
• รับชำระเงินได้
• รองรับการเชื่อมต่อหลากหลาย

ราคา:

• ฟรี: €0 (50 การจอง/เดือน | 1 ผู้ให้บริการ)
• Basic: €9.9/เดือน (100 การจอง/เดือน | 5 ผู้ให้บริการ)
• Standard: €29.9/เดือน (500 การจอง/เดือน | 15 ผู้ให้บริการ)
• Basic: €59.9/เดือน (2,000 การจอง/เดือน | 30 ผู้ให้บริการ)

9. Setmore

Setmore เป็นหนึ่งในตัวเลือก Calendly ฟรีที่ดีที่สุด โดยใช้งานฟรีได้สูงสุด 4 ผู้ใช้

Setmore คือซอฟต์แวร์จัดตารางนัดหมายที่ช่วยให้ธุรกิจจัดการการจองออนไลน์อัตโนมัติ 24/7 รับชำระเงิน แจ้งเตือน และอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณสามารถสร้างหน้าจองที่ปรับแต่งได้พร้อมแบรนด์ของธุรกิจ และยังเพิ่มลิงก์ประชุม Google Meet หรือ Zoom ในการนัดหมายได้เพียงคลิกเดียว

ฟีเจอร์หลัก:

• สร้างหน้าการจองที่ปรับแต่งได้ตามต้องการ
• ระบบจองและชำระเงินอัตโนมัติ 24/7
• เพิ่มลิงก์ประชุม Google Meet หรือ Zoom ได้ในคลิกเดียว
• ส่งแจ้งเตือนแบบข้อความหรืออีเมลถึงลูกค้าแต่ละราย
• มีแอปเฉพาะสำหรับเดสก์ท็อป และสมาร์ทโฟน iOS หรือ Android
• เชื่อมต่อกับหลายแพลตฟอร์ม เช่น Google Calendar, Salesforce, Square, Instagram และอื่น ๆ

ข้อดี:

• ใช้ฟรีได้สูงสุด 4 ผู้ใช้
• ใช้งานง่าย
• ซิงค์ปฏิทินแบบสองทาง
• รองรับการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มหลากหลาย

ราคา:

• ฟรี: $0 (4 ผู้ใช้ | 200 การนัดหมาย/เดือน)
• Pro: $12/เดือน/ผู้ใช้
• Team: $9/เดือน/ผู้ใช้

10. Microsoft Bookings

ตามชื่อ Microsoft Bookings คือซอฟต์แวร์จัดการนัดหมายที่พัฒนาโดย Microsoft ซึ่งรวมอยู่ในแพ็กเกจ Microsoft 365 สำหรับธุรกิจ

Microsoft Bookings ถูกออกแบบมาสำหรับธุรกิจ ให้คุณแสดงเวลาว่างและให้ลูกค้าเลือกช่วงเวลานัดหมายได้ง่าย ๆ สามารถปรับแต่งรายละเอียดการนัดหมาย กำหนดผู้ให้บริการ และตั้งเงื่อนไขการจองได้สะดวก เชื่อมต่อกับปฏิทิน Microsoft 365 เพื่อป้องกันการจองซ้ำซ้อน

ฟีเจอร์หลัก:

• หน้าการจองนัดหมายที่ปรับแต่งได้
• สร้างลิงก์ประชุม MS Teams ให้ทุกการนัดหมายออนไลน์
• เชื่อมต่อกับ Outlook, Teams และผลิตภัณฑ์ Microsoft 365 อื่น ๆ
• แจ้งเตือนและการแจ้งเตือนแบบอัตโนมัติ
• จัดการการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกการจองได้อย่างสะดวก

ข้อดี:

• สร้างหน้าการจองได้ง่าย
• เชื่อมต่อกับแอป Microsoft 365
• จัดการข้อมูลลูกค้าได้แบบศูนย์กลาง

ราคา:

• Microsoft 365 Business Basic: $7.2/ผู้ใช้/เดือน
• Microsoft 365 Business Standard: $15/ผู้ใช้/เดือน
• Microsoft 365 Business Premium: $26.4/ผู้ใช้/เดือน

11. Trafft

Trafft เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกแทน Calendly ที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณจัดการนัดหมายได้อัตโนมัติผ่านหน้าจองที่ปรับแต่งได้ตามต้องการ

Trafft คือซอฟต์แวร์จัดตารางนัดหมายออนไลน์ ที่แสดงตารางเวลา บริการ และช่วงเวลาว่างของคุณผ่านหน้าจองที่ปรับแต่งเองได้ ลูกค้าสามารถจองนัดหมายได้ทันที นอกจากนี้ยังซิงค์กับ Google และ Outlook Calendar เพื่อดูนัดหมายทั้งหมดในที่เดียว เช่นเดียวกับเครื่องมือทางเลือกอื่น ๆ ของ Calendly Trafft ยังส่งการแจ้งเตือนอัตโนมัติผ่าน WhatsApp, SMS หรืออีเมลได้อีกด้วย

ฟีเจอร์หลัก:

• สร้างหน้าจองที่ปรับแต่งได้ ให้ลูกค้าจองนัดหมายได้ตลอด 24 ชั่วโมง
• จัดการปฏิทินของพนักงานทุกคนในที่เดียว กำหนดตารางงานได้ตามต้องการ
• มีระบบ CRM ในตัว
• รับชำระเงินออนไลน์
• ซิงค์กับ Google และ Outlook Calendar
• ส่งการแจ้งเตือนอัตโนมัติ
• แดชบอร์ดวิเคราะห์ข้อมูล

ข้อดี:

• จองออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
• จัดการพนักงานได้สะดวก
• มีระบบ CRM
• มีระบบวิเคราะห์ข้อมูล

ราคา:

• ฟรี: $0 (5 ผู้ใช้)
• Starter: $23.2/เดือน (10 ผู้ใช้)
• Scaling: $48.3/เดือน (15 ผู้ใช้)
• Enterprise: $250/เดือน (50+ ผู้ใช้)

12. Picktime

ตัวสุดท้ายในลิสต์ทางเลือกแทน Calendly ของเราคือ Picktime – แอปจัดการนัดหมายออนไลน์ที่ใช้งานง่ายอีกตัวหนึ่ง

Picktime เป็นแอปจองนัดหมายออนไลน์ที่ใช้งานง่าย ช่วยให้คุณสร้างหน้าจองออนไลน์ กำหนดบทบาท และแชร์หน้าจองให้กับลูกค้าได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังรองรับการชำระเงิน ออกใบแจ้งหนี้ รายงานการขาย การจัดการลูกค้าและทีมงานได้ครบในที่เดียว

ฟีเจอร์หลัก:

• สร้างหน้าจองออนไลน์พร้อมตั้งกฎการจองได้ทันที
• รองรับการจองคลาส เช่น การเช็กชื่อ ออกใบแจ้งหนี้ รายการรอ ฯลฯ
• เชื่อมต่อวิดีโอคอลกับ Zoom, Microsoft Teams, Google Meet และอื่น ๆ
• ซิงค์กับปฏิทินยอดนิยมเกือบทุกประเภท
• ส่งการแจ้งเตือนนัดหมายอัตโนมัติให้ลูกค้า
• รับชำระเงินและออกใบแจ้งหนี้ได้
• จัดการทรัพยากรทุกอย่าง ตั้งแต่ห้องประชุมถึงอุปกรณ์

ข้อดี:

• ใช้งานง่าย
• จัดการทีมงานได้สะดวก
• รองรับการชำระเงินและใบแจ้งหนี้
• จัดการหลายสาขาได้
• มีรายงานและวิเคราะห์ข้อมูล
• ราคาประหยัด

ราคา:

• ฟรี: $0 (3 ผู้ใช้)
• Starter: $4/เดือน/ผู้ใช้ (3 ผู้ใช้)
• Pro: $3/เดือน/ผู้ใช้ (10 ผู้ใช้)

Part 3. วิธีอัตโนมัตินัดหมายธุรกิจของคุณด้วย AI-powered Chatbots

นอกจากซอฟต์แวร์จัดการนัดหมายข้างต้นแล้ว ปัจจุบันยังมีวิธีที่ทันสมัยยิ่งขึ้นในการอัตโนมัตินัดหมายธุรกิจของคุณ นั่นคือการใช้ AI-powered Chatbot

พูดง่าย ๆ AI-powered Chatbot เปรียบเสมือนผู้ช่วยเสมือนจริงที่พูดคุยกับลูกค้าในรูปแบบสนทนาเหมือนมนุษย์ และช่วยจัดตารางนัดหมาย ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ GPTBots.ai แพลตฟอร์มชั้นนำสำหรับสร้าง AI Chatbot

GPTBots.ai เป็นแพลตฟอร์มแบบ no-code ที่ให้คุณสร้าง AI-powered Chatbot ได้ง่าย ๆ คุณสามารถสร้าง Chatbot ที่พูดคุยกับลูกค้า เข้าใจคำถาม และช่วยจัดการนัดหมายได้ สามารถนำ Chatbot ไปติดตั้งบนเว็บไซต์ หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Calendly, WhatsApp, Discord, Zapier หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ เพื่ออัตโนมัติขั้นตอนการจองนัดหมาย

ดูตัวอย่าง AI chatbot จาก SmileBright ที่ใช้ GPTBots.ai ลูกค้าแค่พิมพ์ในกล่องแชทเพื่อขอนัดหมาย แล้ว chatbot จะจัดตารางให้อัตโนมัติทันที ไม่ต้องสร้างหน้า booking ให้ยุ่งยาก แค่สร้างและฝึก chatbot ก็จัดการนัดหมายได้ง่าย ๆ

โดยรวม GPTBots.ai คือแพลตฟอร์มสร้าง AI chatbot แบบครบวงจร ไม่แค่จัดการนัดหมายอัตโนมัติ แต่ยังช่วยซัพพอร์ตลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ GPTBots และเพิ่มโอกาสเติบโตให้ธุรกิจคุณได้ง่ายขึ้นตั้งแต่วันนี้

• 12 วิธีใช้ ChatGPT สำหรับธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ [2026]
• [คู่มือ 2026] วิธีสร้าง Discord Bot โดยไม่ต้องเขียนโค้ด
• วิธีสร้าง WhatsApp Bot ใน 5 นาที! (แค่ 3 ขั้นตอน)
• วิธีสร้าง FAQ Chatbot โดยไม่ต้องเขียนโค้ดใน 5 นาที!
• HR ChatBot คืออะไร? [คู่มือฉบับสมบูรณ์]
• Slack Bot คืออะไร & วิธีสร้าง Slack Bot

สรุป

Calendly เป็นซอฟต์แวร์จัดตารางนัดหมายออนไลน์ยอดนิยม แต่ก็ยังมีตัวเลือกอื่น ๆ ในตลาด เราได้แนะนำ 12 ทางเลือกแทน Calendly ที่มีฟีเจอร์ใกล้เคียงหรืออาจดีกว่า ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ

แต่ถ้าอยากสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ AI chatbot คือทางเลือกที่ดีกว่าในปี 2026 เพราะช่วยให้ลูกค้านัดหมายผ่านบทสนทนาเสมือนจริง พร้อมตอบคำถามหรือซัพพอร์ตลูกค้าได้อีกด้วย มายกระดับประสบการณ์ลูกค้าให้ทันสมัยกว่าเดิมกันเถอะ! สมัครใช้งาน GPTBots.ai สร้าง chatbot ตัวแรกของคุณง่าย ๆ และมอบประสบการณ์นัดหมายอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นให้ลูกค้า

เริ่มใช้ฟรี