คุณกำลังเพลิดเพลินกับประสิทธิภาพและความคล่องตัวที่ Slack มอบให้กับการทำงานเป็นทีมและธุรกิจของคุณอยู่หรือไม่? คุณสามารถทำงานได้มากขึ้นอย่างง่ายดายและอัตโนมัติบน Slack และนี่คือจุดที่ Slack Bot เข้ามามีบทบาท ช่วยให้คุณปลดล็อกระดับใหม่ของความสะดวก ประสิทธิภาพ และฟังก์ชันการทำงานสำหรับพื้นที่ทำงานของคุณได้ในที่เดียว
ในคู่มือฉบับสมบูรณ์นี้ เราจะพาคุณสำรวจโลกของ Slack Bot ว่าคืออะไร ทำงานอย่างไร มีข้อดีอะไรบ้าง และคุณจะสามารถสร้างและเชื่อมต่อบอทเข้ากับกระบวนการทำงานในแต่ละวันของคุณได้อย่างง่ายดายอย่างไร ติดตามไปพร้อมกันและค้นพบว่า Slack Bot จะกลายเป็นผู้ช่วยคนใหม่ที่มีความสามารถช่วยงานของคุณได้อย่างไร

Slack Bot คืออะไร?
Slack Bot หรือ Slack chatbot และ Slack AI bot คือแอปที่ออกแบบมาเพื่อโต้ตอบกับผู้ใช้งานผ่านการสนทนา ทั้งในช่องหรือข้อความส่วนตัวบน Slack โดยสามารถสร้างได้หลากหลายรูปแบบ เช่น บอทแจ้งเตือนวันเกิด บอทแจ้งเตือนการประชุม หรือบอทตอบคำถามที่พบบ่อย
คุณสามารถใช้ Slack Bot เพื่อทำงานทั้งแบบง่ายและซับซ้อนได้ เช่น ส่งการแจ้งเตือนวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ หรือจัดการข้อมูลขั้นสูง โดยทั่วไป Slack Bot สามารถช่วยให้คุณทำสิ่งต่าง ๆ ได้เหมือนกับ Slack app เพราะสามารถเข้าถึง API ได้ในระดับเดียวกัน

จาก Slack
Slack Bot ทำงานอย่างไร?
เมื่อทราบแล้วว่า Slack Bot คืออะไร มาดูวิธีการทำงานของบอทกัน Slack Bot จะทำงานตามโมเดล “trigger-response” หรือ “การกระตุ้นและตอบสนอง” ที่เรียบง่าย คือสื่อสารกับผู้ใช้ผ่านเงื่อนไขและการกระทำที่กำหนดไว้ล่วงหน้า มาดูรายละเอียดของโมเดลนี้กัน:
-
1
การเรียกใช้งาน Slack Bot
ผู้ใช้สามารถเรียกใช้งาน Slack Bot ได้โดยตรงผ่านข้อความใน Slack โดย trigger หลัก ๆ มีดังนี้:
- คำสำคัญ: คุณสามารถกำหนดคีย์เวิร์ดเฉพาะในข้อความของผู้ใช้เพื่อให้ Slack Bot ทำงานได้ อาจเป็นคำ วลี หรือประโยค เช่น “รหัส Wi-Fi คืออะไร?”
- คำสั่ง: สามารถตั้ง custom slash command เช่น “/reset-password” เพื่อเรียกใช้งาน Slack Bot ได้เช่นกัน
- การกล่าวถึง: ผู้ใช้สามารถ mention Slack Bot โดยตรงด้วย “@botname” เพื่อเรียกบอท
- เหตุการณ์ที่ตั้งเวลาไว้: เหตุการณ์ที่ตั้งเวลาไว้ เช่น ส่งคำอวยพรวันเกิดให้พนักงานผ่าน Slack ก็สามารถเป็น trigger ให้ Slack Bot ทำงานได้
-
2
บอท Slack ตอบสนองอย่างไร
เมื่อถูก trigger แล้ว บอท Slack จะตอบสนองตามเงื่อนไขและการกระทำที่กำหนดไว้ล่วงหน้า โดยแต่ละบอทจะตอบสนองแตกต่างกันไปตามความสามารถของแต่ละตัว ติดตามในส่วนถัดไปเพื่อดูตัวอย่างการตอบสนองที่บอท Slack สามารถให้กับผู้ใช้ของคุณได้

นอกจากโมเดล “trigger-response” ที่กระชับนี้แล้ว Slack Bot ยังสามารถออกแบบให้มีฟีเจอร์ขั้นสูงได้ เช่น ตอบสนองแตกต่างกันระหว่างผู้ใช้ใหม่กับผู้ใช้เดิม เพื่อเพิ่ม engagement และความพึงพอใจของผู้ใช้ เช่น ผู้ใช้ใหม่อาจได้รับคำแนะนำการใช้งานเบื้องต้น ส่วนผู้ใช้เดิมบอทก็สามารถดำเนินการต่อจากจุดที่คุยค้างไว้ครั้งก่อน โดยฟีเจอร์นี้จะต้องให้ Slack Bot เข้าถึงข้อมูลผู้ใช้และบันทึกประวัติการโต้ตอบ
สำหรับผู้ใช้ใหม่ Slack Bot สามารถเริ่มต้นด้วยการต้อนรับอย่างอบอุ่น ส่วนผู้ใช้เดิม บอทก็สามารถดำเนินการต่อจากจุดที่คุยค้างไว้ครั้งก่อน
คุณสามารถทำอะไรกับ Slack Bot ได้บ้าง?
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า Slack Bot สามารถทำงานได้ทั้งแบบง่ายและซับซ้อน—ไม่ใช่แค่คำกล่าวลอย ๆ เท่านั้น กลไก trigger-response ทำให้ Slack Bot มีความยืดหยุ่นและสามารถช่วยให้คุณทำงานอัตโนมัติได้หลากหลาย ตั้งแต่การดึงข้อมูลและแสดงผลแบบง่าย ๆ ไปจนถึงการเชื่อมต่อและโต้ตอบกับระบบบริการภายนอกที่ซับซ้อน
ในส่วนนี้ เราจะพาท่านไปรู้จักกับแต่ละประเภทของงานที่ Slack Bot หรือบอท AI สำหรับ Slack สามารถทำได้อย่างละเอียด
1 ให้บริการ IT support
ท่านสามารถสร้าง Slack support bot เพื่อช่วยให้บริการ IT ภายในองค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้น พนักงานจะได้รับคำตอบที่รวดเร็วและแม่นยำจาก chatbot บน Slack ซึ่งจะช่วยลดภาระงานของทีม IT และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ IT โดยรวม

จาก Slack
ตัวอย่างสิ่งที่ Slack Bot สามารถช่วยเหลือด้าน IT support ได้ เช่น
- แชร์รหัสผ่าน Wi-Fi
- สร้าง อัปเดต และติดตาม support ticket
- ติดตาม license ซอฟต์แวร์และอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์
- ตรวจสอบเครือข่ายและส่งการแจ้งเตือนแบบพุชไปยัง Slack โดยตรงหากเกิดปัญหา
- ส่งการแจ้งเตือนด้านความปลอดภัย เช่น แจ้งเตือนภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ หรือเตือนให้อัปเดตซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส
- ส่งแนวทางแก้ไขปัญหา IT ทั่วไปแบบ step-by-step เช่น การรีเซ็ตรหัสผ่าน หรือแก้ปัญหาเครือข่าย/เครื่องพิมพ์เบื้องต้น
- ให้เข้าถึงเอกสาร IT และ knowledge base ได้ทันที เช่น แนวทางปฏิบัติในการปกป้องข้อมูลสำคัญของบริษัท หรือคู่มือเชื่อมต่อ VPN
2 ส่งข้อมูลหรือรายงานจากบริการภายนอก
ด้วยการเชื่อมต่อกับบริการภายนอก Slack data bot หรือบอท AI สำหรับ Slack สามารถส่งข้อมูลและรายงานต่าง ๆ ไปยังช่อง Slack หรือ direct message ได้โดยตรง ทีมงานของท่านจึงเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้โดยไม่ต้องออกจากแชท
ตัวอย่างข้อมูลที่ Slack Bot สามารถดึงมาแสดงได้ เช่น
- รายงานยอดขายประจำวันจากระบบ CRM (Customer Relationship Management หรือ การบริหารลูกค้าสัมพันธ์)
- รายงานความคืบหน้าโครงการประจำสัปดาห์จากซอฟต์แวร์บริหารโครงการ
- อัปเดตซัพพลายเชนและโลจิสติกส์จากระบบจัดการซัพพลายเชน
- สถิติการให้บริการลูกค้าจากซอฟต์แวร์ customer support
- ผลลัพธ์แคมเปญการตลาดจาก marketing platform
3 ส่งการแจ้งเตือนแบบกำหนดเอง
ท่านสามารถสร้าง Slack notification bot สำหรับแจ้งเตือนต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ เพียงตั้งค่า trigger ตามต้องการ ช่วยให้สมาชิกในทีมไม่พลาดงานสำคัญ และเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในระดับบุคคลและองค์กร

จาก zapier
ตัวอย่างการแจ้งเตือนแบบกำหนดเอง เช่น
- แจ้งเตือนการประชุม
- แจ้งเตือนวันครบกำหนดงาน
- แจ้งเตือน deadline โครงการ
- เตือนให้สั่งซื้อสินค้า
- แจ้งเตือนเมื่อได้รับอีเมลสำคัญ
- แจ้งเตือนรีวิวลูกค้าใหม่
- แจ้งเตือนเมื่อถูกกล่าวถึงใน social media
4 จัดการทรัพยากรบุคคล (HR)
Slack HR management bot สามารถช่วยยกระดับการบริหารงานบุคคล สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงาน และเพิ่มประสิทธิภาพองค์กรโดยรวม

จาก hackster.io
Slack Bot สามารถช่วยทีม HR ได้ดังนี้
- ส่งข้อความต้อนรับและข้อมูลสำคัญให้พนักงานใหม่
- ส่งคำอวยพรวันเกิด
- ส่งข้อความแสดงความขอบคุณในวันครบรอบการทำงาน
- ให้ข้อมูลติดต่อที่สำคัญ
- แชร์นโยบายบริษัท เช่น การตอบคำถามเกี่ยวกับวันลาพักร้อน
5 จัดการทรัพยากรองค์กร
Slack resource bot สามารถช่วยให้การจัดการพื้นที่สำนักงานและอุปกรณ์ต่าง ๆ สะดวกและง่ายดายยิ่งขึ้น เพื่อให้การใช้ทรัพยากรในองค์กรของท่านเกิดประโยชน์สูงสุด
ตัวอย่างบริการที่ Slack schedule bot สามารถนำเสนอได้ เช่น
- จองห้องประชุม
- จองที่จอดรถ
- จองรถสำหรับการเดินทางธุรกิจ
คุณยังสามารถใช้ Slack Bot สำหรับการสนับสนุนลูกค้าได้ หากคุณมีการติดต่อกับลูกค้าบน Slack เช่นเดียวกับตัวอย่างข้างต้น Slack Bot สำหรับการสนับสนุนลูกค้าสามารถทำงานดังต่อไปนี้ (แต่ไม่จำกัดเพียงเท่านี้):
- ตอบคำถามที่พบบ่อยของลูกค้าได้ทันทีด้วยคำตอบที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
- สร้าง ticket ใหม่จากคำถามลูกค้า อัปเดตสถานะ ticket และแจ้งลูกค้าเกี่ยวกับความคืบหน้า
- ส่งการแจ้งเตือนเชิงรุกเกี่ยวกับปัญหา อัปเดต หรือข้อมูลสำคัญอื่น ๆ ให้กับลูกค้า เช่น การหยุดให้บริการ การบำรุงรักษา หรือการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่
- แปลข้อความสอบถามและคำตอบของลูกค้าโดยอัตโนมัติ ช่วยให้สามารถให้บริการลูกค้าที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษได้โดยตรงบน Slack
Slack Bot สำหรับธุรกิจมีประโยชน์อะไรบ้าง?
คุณอาจสังเกตเห็นข้อดีบางอย่างที่ Slack Bot มอบให้กับการทำงานของคุณจากตัวอย่างข้างต้น ในส่วนนี้ เราจะพาคุณมาดูข้อดีหลัก ๆ ที่บอท AI สำหรับ Slack สามารถเพิ่มให้กับการดำเนินธุรกิจของคุณได้:
-
เพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการทำงาน
Slack Bot ช่วยลดความจำเป็นในการใช้คนสำหรับงานประจำ เช่น การจองทรัพยากร แก้ไขปัญหาเครือข่าย หรือค้นหาข้อมูลติดต่อ โดยช่วยให้กระบวนการทำงานรวดเร็วขึ้น พนักงานของคุณจึงมีเวลาโฟกัสกับงานสำคัญมากขึ้น ส่งผลให้ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินงานโดยรวมสูงขึ้นอย่างชัดเจน
-
เสริมสร้างการสื่อสารและการทำงานร่วมกัน
ด้วย Slack Bot ทีมของคุณจะเข้าถึงข้อมูลที่แม่นยำได้อย่างรวดเร็ว และจัดการการสื่อสารกับการทำงานร่วมกันบนแพลตฟอร์มเดียว ลดความล่าช้าในการสื่อสาร ลดความเข้าใจผิด และช่วยให้ทีมทำงานร่วมกันได้ดียิ่งขึ้น
-
ให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ต่างจากพนักงานทั่วไป Slack Bot สามารถทำงานได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องพัก ให้บริการและตอบกลับได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เหมาะอย่างยิ่งหากคุณมีทีมงานหรือกลุ่มลูกค้าทั่วโลก
-
ยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้
Slack Bot สามารถตอบกลับด้วยฟีเจอร์อินเตอร์แอคทีฟ เช่น ปุ่มกด, carousels หรือเมนูแบบกำหนดเอง ช่วยให้การใช้งานง่ายขึ้นและเข้าถึงโซลูชันได้สะดวกยิ่งขึ้น เพิ่มความน่าสนใจในการใช้งานสำหรับทีมงานหรือกลุ่มลูกค้าของคุณ
-
ขยายการใช้งานได้ง่ายและประหยัดต้นทุน
เมื่อธุรกิจของคุณเติบโต Slack Bot สามารถขยายการรองรับคำถามหรืองานที่เพิ่มขึ้นได้โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มทั้งในด้านเวลาและค่าใช้จ่าย ลดความจำเป็นในการจ้างพนักงานเพิ่มและช่วยลดภาระงานของทีมที่มีอยู่
วิธีสร้างบอท Slack [No Code]
เมื่อคุณเข้าใจแล้วว่า Slack Bot ทำอะไรได้บ้างและมีประโยชน์มากแค่ไหน เชื่อว่าคุณคงอยากรู้วิธีสร้างและใช้งานบอท Slack หรือแชทบอท Slack ของคุณเอง ข่าวดีคือ คุณสามารถสร้างบอท Slack ได้ง่าย ๆ ด้วยแพลตฟอร์ม no-code ของเรา—GPTBots โดยไม่ต้องปวดหัวกับการเขียนโปรแกรม
มาดูขั้นตอนการสร้างบอท Slack บน GPTBots กันทีละสเต็ป ซึ่งประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก:

ขั้นตอนที่ 1 สร้าง Slack App
เราจะใช้แอปที่สร้างนี้เพื่อเชื่อมต่อบอทของคุณกับ Slack ในส่วนที่ 3
หากคุณเพิ่งเริ่มใช้ Slack กรุณาสร้างพื้นที่ทำงาน Slack ของคุณ ก่อนเริ่มทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้
-
1
เข้าสู่ระบบ Slack workspace ของคุณ
-
2
ไปที่ “Your Apps” บน Slack API จากนั้นคลิก “Create an App”
-
3
คลิก “From scratch”
-
4
ตั้งชื่อแอป Slack ของคุณ เลือก workspace ของคุณจากเมนูดรอปดาวน์ แล้วคลิก “Create App”
หมายเหตุ: ขอแนะนำให้ใช้ชื่อเดียวกันทั้งสำหรับแอปและบอทที่คุณจะสร้างในภายหลัง ชื่อนี้จะแสดงใน Slack workspace ของคุณในฐานะชื่อของ Slack Bot โดยคุณสามารถเปลี่ยนชื่อได้ภายหลัง
แอป Slack ของคุณถูกสร้างเรียบร้อยแล้ว ระบบจะแสดงข้อมูลพื้นฐานของแอปที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ
คุณจะต้องใช้ค่า “Client ID”, “Client Secret” และ “Verification Token” เพื่อเชื่อมต่อบอทของคุณกับ Slack ใน Part 3
ต่อไปเราจะตั้งค่าการอนุญาตและความสามารถของแอปของคุณ
-
5
ตั้งค่าการอนุญาต
คลิก “OAuth & Permissions” ที่เมนูด้านซ้าย จากนั้นในแผง “Scopes” ให้คลิก “Add an OAuth Scope” ใต้ “Bot Token Scopes”
เลือกสิทธิ์สำหรับแอป Slack ของคุณจากเมนูที่เลื่อนดูได้
-
6
เปิดใช้งานให้ข้อความที่ส่งจาก Slack app ของคุณ (รวมถึง Slack Bot ของคุณในภายหลัง) ปรากฏในแท็บ Messages:
คลิกที่ “App Home” ในเมนูด้านซ้าย จากนั้นเลือก “Messages Tab”
หมายเหตุ: หากคุณกำลังสร้าง Slack Bot ที่สามารถถูกเรียกใช้งานด้วยคำสั่ง ให้เลือก “Allow users to send Slash commands and messages from the messages tab” เพื่ออนุญาตให้ผู้ใช้ส่งคำสั่ง Slash และข้อความผ่านแท็บ Messages
ขั้นตอนที่ 2 สร้าง Slack Bot ของท่านเองบน GPTBots
บน GPTBots ท่านสามารถสร้างบอทที่ขับเคลื่อนด้วย AI ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว เพียงไม่กี่คลิก
ก่อนที่เราจะพาท่านไปดูขั้นตอนการสร้าง Slack Bot มาดูกันก่อนว่าท่านสามารถปรับแต่ง Slack Bot ของท่านบน GPTBots ได้อย่างไรบ้าง:
- ท่านสามารถเลือกโมเดลภาษา (LLM) ที่ท่านต้องการจากโมเดลยอดนิยมที่ GPTBots รองรับ โดย “Flow Bot” และ “Agent Bot” ยังสามารถเชื่อมต่อกับหลาย LLM ได้ เพื่อรองรับการใช้งานทางธุรกิจที่ซับซ้อน
- สามารถผสานข้อมูลบริษัทของท่านหลากหลายประเภทลงในบอท เพื่อให้ Slack Bot มีความเฉพาะตัวและตอบคำถามได้แม่นยำยิ่งขึ้น
- เชื่อมต่อเครื่องมือยอดนิยมจากภายนอก เช่น Google Search และ DALL-E เพื่อเพิ่มความสามารถให้กับบอทของท่าน
- สร้างบอทได้หลายวิธีอย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะสร้างเอง เลือกจากเทมเพลตที่ GPTBots มีให้ หรือพูดคุยกับ AI assistant เพื่อให้ช่วยสร้าง Slack Bot ตามความต้องการของท่าน
ต่อไปนี้ เราจะสร้างบอทสำหรับส่งข้อความแสดงความยินดีในโอกาสครบรอบการทำงานของพนักงาน เพื่อสาธิตวิธีสร้าง Slack Bot บน GPTBots ให้ท่านดู:
-
1
สร้างบัญชี GPTBots ของท่าน และเข้าสู่ระบบ
-
2
เลือก “สร้างใหม่” จากเมนูดรอปดาวน์ของ “โหมดการสร้างอื่น ๆ” ที่มุมขวาบน จากนั้นตั้งชื่อบอทและเลือกโมเดลภาษา (LLM) ในช่อง “Bot identify prompt” ท่านสามารถปรับแต่งสไตล์การตอบของบอท หรือจะเว้นว่างไว้ก็ได้ เมื่อกรอกข้อมูลครบแล้ว ให้คลิก “สร้าง”
หมายเหตุ: ท่านยังสามารถเปลี่ยนโมเดลและแก้ไขข้อความกำหนดคำตอบ (prompt) ได้หลังจากสร้างบอทแล้วบอทของท่านจะถูกสร้างขึ้น จากนั้นคลิกที่บอทเพื่อเริ่มปรับแต่ง
-
3
ปรับแต่ง Slack Bot ตามที่ท่านต้องการ
- ใน “LLM” ท่านสามารถเปลี่ยนโมเดลและแก้ไขข้อความกำหนดคำตอบ (prompt) ได้
- ใน “การตั้งค่าความรู้ (Knowledge Base)” อัปโหลดข้อมูลสาธารณะของท่านโดยคลิก “Knowledge available” > “ไปที่ Knowledge Library เพื่ออัปโหลดเอกสาร” จากนั้นสามารถผสานข้อมูลกับบอทเพื่อให้เหมาะกับธุรกิจของท่านมากขึ้น
- ใน “Tools” คลิก “เพิ่ม Tools” เพื่อเลือกเครื่องมือที่ต้องการเพิ่มความสามารถให้กับ Slack Bot
หมายเหตุ
ท่านสามารถปรับแต่งการตั้งค่าอื่น ๆ เช่น “Memory” ให้เหมาะกับความต้องการของท่านมากขึ้น แนะนำให้ทดลองและปรับแต่งการตั้งค่าต่าง ๆ ด้วยตัวเอง
ขั้นตอนที่ 3 การเชื่อมต่อบอทกับ Slack
เมื่อคุณสร้างแอป Slack และ chatbot เสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะเชื่อมต่อทั้งสอง
-
1
ในหน้าต่างเดียวกันกับขั้นตอนสุดท้ายที่ระบุไว้ใน Part 2 บน GPTBots ให้คลิกที่ “Integrations” แล้วเลือก “Manage” ของ “Slack” เพื่อเริ่มตั้งค่า Slack Bot
-
2
ที่หน้า “Basic Information” ของ Slack app ให้คัดลอกค่า “Client ID”, “Client Secret” และ “Verification Token” (ตามที่กล่าวไว้ในขั้นตอนที่ 4 ของ Part 1) แล้วนำไปวางในช่องที่เกี่ยวข้องบน GPTBots จากนั้นคลิก “Save” เพื่อดำเนินการสร้างบอท Slack ต่อ
-
3
หลังจากคลิก “Save” แล้ว ระบบจะสร้าง URL ทั้งสามค่าให้โดยอัตโนมัติ
3.1 คัดลอก OAuth URL ที่ระบบสร้างให้ จากนั้นไปที่หน้า Slack app ของคุณ แล้วเลือก “OAuth & Permissions”
3.2 เลือก “Add New Redirect URL”
3.3 วาง OAuth URL ที่คัดลอกไว้ในกล่องที่ปรากฏขึ้น แล้วกด “Add”
3.4 คลิก “Save URLs” -
4
ยังอยู่ที่หน้า Slack app:
4.1 เลือก “Event Subscriptions”
4.2 เลือก “Enable Events”
4.3 คัดลอก Event URL จากขั้นตอนที่ 2 แล้ววางลงใน “Request URL” ระบบจะตรวจสอบ URL โดยอัตโนมัติ
4.4 คลิก “Add Bot User Event” และตั้งค่า events ที่ต้องการ
4.5 คลิก “Save Changes” -
5
กลับไปที่ GPTBots แล้วคลิกที่ URL สีน้ำเงินของ “Authorization” จากนั้นในหน้าต่างที่ปรากฏขึ้น ให้คลิก “Allow” เพื่ออนุญาตให้บอทของคุณเข้าถึง Slack workspace
เชื่อมต่อ GPTBots AI Agent กับแอป Slack ของคุณได้ง่าย ๆ
จากนั้น Slack Bot จะปรากฏในเวิร์กสเปซของ Slack คุณและทีมงานสามารถเริ่มสนทนาและใช้งานฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ได้ทันที
วิธีเพิ่ม Slack Bot ของคุณลงในช่อง (Channel) บน Slack
หากคุณต้องการใช้งาน Slack Bot ของคุณในช่อง (Channel) โดยตรง สามารถทำตามวิธีใดวิธีหนึ่งดังต่อไปนี้:
วิธีที่ 1
ไปที่ช่อง (Channel) ใน Slack ที่คุณต้องการเพิ่ม Slack Bot:
-
1
พิมพ์ชื่อ Slack Bot ของคุณในช่องกรอกข้อความเพื่อกล่าวถึง (mention) จากนั้นคลิกที่บอทที่ปรากฏขึ้น แล้วกดปุ่ม “Enter” หรือ “Return” บนแป้นพิมพ์ของคุณ
-
2
ที่หน้าต่างป๊อปอัป ให้คลิก “Add to Channel” จากนั้นคุณจะเห็นว่า Slack Bot ถูกเพิ่มเข้าไปในช่อง (Channel) และสามารถพูดคุยกับบอทได้โดยตรงในช่องนั้น
วิธีที่ 2
ไปที่ช่อง (Channel) ใน Slack ที่คุณต้องการเพิ่ม Slack Bot:
-
1
คลิกชื่อช่อง (Channel) ที่มุมซ้ายบน แล้วเลือก “Integrations” > “Add an App”
-
2
ที่หน้าต่างป๊อปอัป ให้คลิก “Add” ตรง Slack Bot ของคุณ จากนั้นคุณจะเห็นว่า Slack Bot ถูกเพิ่มเข้าไปในช่อง (Channel) และสามารถพูดคุยกับบอทได้โดยตรงในช่องนั้น
เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถแชทกับ Slack Bot ได้ทั้งในช่อง (Channel) หรือในข้อความส่วนตัว Slack Bot สามารถช่วยให้การทำงานในช่อง (Channel) ง่ายขึ้น และคุณสามารถสร้างบอท Slack ได้ด้วยตนเอง

สรุปท้ายบทความ
หลังจากที่คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับ Slack Bot อย่างละเอียดแล้ว ถึงเวลาที่คุณจะสร้าง Slack Bot ของคุณเอง ให้ GPTBots ช่วยให้คุณสร้างบอท AI สำหรับ Slack ได้ง่าย ๆ เพียงไม่กี่คลิก