AI ช่วยงานขาย: อัตโนมัติและยกระดับกระบวนการขาย

แม้ปัจจุบันจะยังมีไม่กี่องค์กรที่ตระหนักถึงพลังของ AI ในงานขาย แต่ความจริงคือ พนักงานขายที่นำเทคโนโลยีล้ำสมัยเหล่านี้มาใช้ สามารถปรับปรุงขั้นตอนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างชัดเจน

หากคุณสงสัยเกี่ยวกับศักยภาพของ AI และวิธีนำ AI มาใช้ในงานขาย คุณมาถูกที่แล้ว!

อ่านต่อเพื่อเรียนรู้บทบาทของ AI ในงานขายแบบละเอียด!

Part 1: AI ช่วยงานขาย คืออะไร?

คำว่า ‘AI’ เป็นคำกว้างที่ครอบคลุมเครื่องมือและเทคโนโลยีหลากหลาย เช่น Machine Learning, การวิเคราะห์อัลกอริทึม, Deep Learning, การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) และอื่น ๆ อีกมากมาย

สรุปแล้ว AI ในงานขาย หมายถึง การใช้เครื่องมือ เทคโนโลยี อัลกอริทึม และชุดข้อมูลที่ขับเคลื่อนด้วย AI สมัยใหม่ เพื่อช่วยลดความซับซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการขาย ประหยัดเวลา และเพิ่มยอดขาย

ขนาดธุรกิจ ทรัพยากรที่มี และเป้าหมายเฉพาะ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาในการเลือกใช้เครื่องมือและเทคโนโลยี AI ที่เหมาะสมเพื่อผลักดันยอดขาย

พัฒนาการของ AI ในงานขาย

บทบาทของ AI ในงานขายได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา ในช่วงแรก ธุรกิจใช้เครื่องมือ AI เพื่อช่วยเหลือพนักงานและจัดการงานย่อยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ ต่อมาจึงมีการนำ Chatbot และผู้ช่วยเสมือนที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาใช้ ซึ่งสามารถดูแลกระบวนการขายได้ทั้งระบบ ตั้งแต่การค้นหาสินค้าไปจนถึงการจัดการคืนเงินและคืนสินค้า

ปัจจุบัน ความก้าวหน้าของ AI ยังนำไปสู่การพัฒนา CRM (Customer Relationship Management) ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งช่วยให้กระบวนการขายเป็นอัตโนมัติสำหรับหลายธุรกิจ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอย่างครอบคลุม

ตอนนี้ AI กำลังเปลี่ยนแปลงวงการขายด้วยเครื่องมือและเทคนิคต่าง ๆ เช่น การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ (Predictive Analytics), การแนะนำสินค้ารายบุคคล, AI Customer Care Agent และข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ความสำคัญของการใช้ AI ในงานขาย

การนำโซลูชัน AI ที่มีประสิทธิภาพมาใช้ในกระบวนการขาย สามารถช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของคุณได้อย่างมาก สถิติ ชี้ว่าธุรกิจที่ใช้ AI ในงานขาย สามารถเพิ่มโอกาสในการได้ลูกค้าใหม่มากกว่า 50% ลดเวลาการโทรศัพท์ 60-70% และลดต้นทุน 40-60%

Part 2: วิธีใช้ AI ในงานขาย (ตัวอย่างการใช้งานจริง)

หากคุณอยากรู้วิธีใช้ AI ในงานขาย คุณควรศึกษาตัวอย่างและกรณีการใช้งานจริงของ AI ในกระบวนการขาย มาดูรายละเอียดกันเลย

1 การคาดการณ์ยอดขาย

ธุรกิจที่มีระบบคาดการณ์ยอดขายที่มีประสิทธิภาพและขับเคลื่อนด้วยข้อมูลในอดีต จะได้เปรียบเหนือคู่แข่ง โปรดทราบว่าการคาดการณ์ยอดขายไม่ได้หมายถึงแค่การทำนายกำไรหรือขาดทุนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการวิเคราะห์ว่าดีลจะปิดได้หรือไม่ และควรเลือกกลุ่มเป้าหมายใดในแคมเปญการตลาด

ความแม่นยำของการคาดการณ์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เหล่านี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของข้อมูลที่ใช้ฝึก AI โดยทั่วไป การคาดการณ์เชิงคาดการณ์ (Predictive Forecasting) ถือเป็นเครื่องมือทรงพลังในการสร้างคุณค่าให้กับทั้งทีมและธุรกิจของคุณ

ที่มา：www.zoho.com

2 การวิเคราะห์ความรู้สึก

การวิเคราะห์ความรู้สึกเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญของเครื่องมือ AI สำหรับงานขายยุคใหม่ โดยช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์ความรู้สึกของลูกค้าทั้งกลุ่มเป้าหมายและลูกค้าปัจจุบัน เพื่อคาดการณ์โอกาสความสำเร็จของดีลขาย

ขอบเขตของการวิเคราะห์ความรู้สึกจะขึ้นอยู่กับ AI tool ที่คุณเลือกใช้ โดยส่วนใหญ่จะรองรับการวิเคราะห์ข้อความ เช่น ข้อความแชทและอีเมล อย่างไรก็ตาม ยังมีเครื่องมืออย่าง Dialpad AI ที่สามารถถอดเสียงสนทนาและวิเคราะห์ความรู้สึกจากการโทรขายแบบเรียลไทม์ได้อีกด้วย

ที่มา：www.dialpad.com

เมื่อทีมขายมีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับความรู้สึกของลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำแล้ว จะสามารถปรับกลยุทธ์การขายเพื่อรักษาดีลนั้นไว้ได้ทันที

3 สรุปการประชุม

ปกติทีมขายมักต้องรับมือกับการโทรและประชุมจำนวนมากในแต่ละวัน นอกจากตัวประชุมเองแล้ว พนักงานขายยังต้องใช้เวลาและพลังงานในการสรุปประเด็นและข้อสงสัยของลูกค้าที่พูดคุยกันอีกด้วย

เครื่องมือ AI สมัยใหม่สามารถสรุปเนื้อหาจากการโทรและประชุมได้ทันทีหลังจบการสนทนา พร้อมความแม่นยำสูง AI ยังสามารถแนะนำขั้นตอนถัดไปเพื่อประหยัดเวลาของคุณ การใช้ AI ในงานขายรูปแบบนี้จะช่วยให้คุณประหยัดเวลา ทรัพยากรบุคคล และโฟกัสกับกิจกรรมสำคัญอื่นๆ ได้มากขึ้น

ที่มา：https://justcall.io/

4 Conversational AI สำหรับดูแลลูกค้า

การใช้ chatbot และผู้ช่วยเสมือน (virtual assistant) ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในงานขาย เป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพสูงในการเพิ่มยอดขายผ่าน AI chatbot ที่ออกแบบและเชื่อมต่อกับระบบธุรกิจอย่างดี จะช่วยให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์สามารถค้นหาข้อมูลและรับคำตอบสำหรับคำถามที่พบบ่อยได้ทันที

ดังนั้น พนักงานและตัวแทนขายไม่ต้องตอบคำถามเดิมซ้ำๆ สามารถนำเวลาและพลังงานไปจัดการประเด็นที่ซับซ้อนหรือโฟกัสกับส่วนอื่นของธุรกิจได้มากขึ้น

5 การแนะนำสินค้า

การแนะนำสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความต้องการของลูกค้าเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มยอดขายและกำไร คุณสามารถใช้ AI algorithm เพื่อแนะนำสินค้าให้กับลูกค้าใหม่ผ่านโฆษณาและการตลาดผ่านอีเมล

ในทำนองเดียวกัน หากลูกค้าเคยซื้อสินค้าจากร้านออนไลน์ของคุณแล้ว คุณสามารถส่งอีเมลอัตโนมัติแบบเฉพาะบุคคลพร้อมข้อเสนอแนะนำสินค้าตามประวัติการซื้อและความสนใจของแต่ละคนได้ ดังนั้น AI จะช่วยยกระดับกลยุทธ์ upsell และ cross-sell ของคุณให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ที่มา:https://www.getwiser.ai/

Part 3: เครื่องมือ AI สำหรับงานขายที่คุณควรรู้จัก

การเลือกเครื่องมือ AI ที่เหมาะสมกับงานขายเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยีสมัยใหม่และปิดการขายได้มากขึ้น ในตลาดมี AI tools สำหรับงานขายให้เลือกมากมาย แต่ 3 เครื่องมือด้านล่างนี้ถือเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ

1. GPTBots

การนำ chatbot เข้ามาใช้กับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซและช่องทางโซเชียลมีเดีย ถือเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้ AI ช่วยงานขาย ดังนั้น การเลือกแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือในการสร้างบอทจึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก

GPTBots คือเครื่องมือที่ทรงพลัง มีประสิทธิภาพ และใช้งานง่าย ให้คุณสร้างบอท/AI Agent ได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด อีกทั้งยังสามารถติดตามการตอบกลับของบอทและปรับแต่งข้อมูลหรือเนื้อหาการฝึกสอน เพื่อพัฒนาบอทและขยายศักยภาพให้เติบโตไปพร้อมกับธุรกิจของคุณ

เนื่องจาก GPTBots เป็นแพลตฟอร์ม no-code คุณจึงสามารถสร้างบอท/AI Agent ที่ทำงานขั้นสูงได้ เช่น การเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล การสร้างลีด การเขียน SEO AI และการดูแลลูกค้าแบบครบวงจร

จุดเด่นของ GPTBots ที่ทำให้เป็นเครื่องมือ AI ช่วยงานขายที่ยอดเยี่ยม ได้แก่:

• สร้างได้ง่ายผ่านอินเทอร์เฟซที่โต้ตอบและใช้งานสะดวก
• ฝึก AI Agent อย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงการตอบกลับและเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า
• มี AI Agent templates ให้เลือกใช้งานมากมาย ช่วยให้เริ่มต้นได้อย่างรวดเร็วและมีจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับ AI Agent ของคุณ

ศักยภาพของระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบในการจัดการกระบวนการขายทั้งหมด

GPTBots คือแพลตฟอร์มแบบ all-in-one สำหรับการสร้างบอท ฝึกบอท และติดตามผลอย่างต่อเนื่อง คุณสามารถป้อนข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบ ทำให้การฝึกบอทเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านเทคนิคหรือโค้ดดิ้ง คุณสามารถเริ่มสร้างบอทที่โต้ตอบและดึงดูดใจลูกค้าได้ทันทีด้วย GPTBots

2. HubSpot Sales Hub

HubSpot Sales Hub คือเครื่องมือ CRM แบบครบวงจรสำหรับทีมขาย เพื่อปรับปรุงกระบวนการขายให้มีประสิทธิภาพ แพลตฟอร์มนี้มีฟีเจอร์ AI-powered มากมาย ตั้งแต่การคาดการณ์ยอดขาย การนัดหมาย ไปจนถึงการจัดการกระบวนการขายทั้งหมดในที่เดียว

HubSpot Sales Hub ใช้อัลกอริทึมที่ทันสมัยและทรงพลัง ช่วยให้คุณรวบรวมข้อมูลจากลูกค้าเป้าหมายและเปลี่ยนเป็นลูกค้าประจำ ผู้ใช้ HubSpot ต่างชื่นชอบฟีเจอร์ที่ช่วยสร้าง sales pipeline และระบบอัตโนมัติที่เปลี่ยนลีดเป็นลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. Zoho CRM

Zoho เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงด้านโซลูชันธุรกิจหลากหลาย Zoho CRM มาพร้อมผู้ช่วย AI ด้านการขายชื่อ Zia ที่ช่วยทีมขายและบริการตัดสินใจทางธุรกิจอย่างชาญฉลาด เพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า และตอบคำถามได้อย่างรวดเร็วเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุด

จุดเด่นของ Zoho CRM สำหรับ AI ในงานขาย ได้แก่:

• การคาดการณ์ด้วย AI ที่แม่นยำ ให้คุณเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าอย่างครบถ้วน
• เลือกเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการส่งข้อเสนอและอีเมลแบบเฉพาะบุคคล
• ติดตามยอดขายอย่างต่อเนื่องเพื่อระบุความผิดปกติหรือแนวโน้มที่เปลี่ยนไป
• ยกระดับประสบการณ์และการมีส่วนร่วมของลูกค้าด้วยคำแนะนำเฉพาะบุคคล
• คัดเลือกและนำเสนอสินค้าที่เหมาะสมสำหรับการ upsell และ cross-sell

Part 4: อนาคตของ AI ในงานขายจะเป็นอย่างไร?

นอกจากแนวโน้มปัจจุบันของ AI ในงานขายแล้ว คุณอาจสงสัยว่าอนาคตของ AI ในงานขายจะเป็นอย่างไร มาดูแนวโน้มที่คาดว่าจะเกิดขึ้น พร้อมทั้งข้อกังวลบางประการกัน

• 1

  AI และ Machine Learning จะมาแทนที่งานขายหรือไม่?

  ประเด็นหลักที่เกี่ยวข้องกับการใช้ AI สำหรับงานขาย คือ พนักงานขายบางส่วนยังไม่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ส่วนใหญ่กังวลว่า AI และ Machine Learning จะเข้ามาแทนที่จนทำให้พวกเขาสูญเสียงาน
  อย่างไรก็ตาม งานที่ต้องใช้แรงงานมนุษย์ยังคงเป็นสิ่งที่เครื่องจักรไม่สามารถทดแทนได้ทั้งหมด ยังจำเป็นต้องมีพนักงานขายเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า ดังนั้น แทนที่จะมองว่า AI, Deep Learning และ Machine Learning เป็นภัยคุกคาม พนักงานขายควรเปิดใจเรียนรู้และใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของตนเอง
• 2

  ศักยภาพของ AI สำหรับงานขายในอนาคต

  บทบาทของ AI ในงานขายคาดว่าจะเติบโตและมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ โดยจะมีการลงทุนและให้ความสำคัญกับการพัฒนาเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อใช้ในการทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคล
  นอกจากนี้ chatbot ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สามารถตอบสนองบทสนทนาที่ซับซ้อนและช่วยให้ธุรกิจปิดการขายได้ดีขึ้น อีกหนึ่งแนวโน้มที่คาดว่าจะเกิดขึ้นคือ การผสาน AI เข้ากับเทคโนโลยีอื่น เช่น Virtual Reality เพื่อสร้างประสบการณ์งานขายที่สมจริง

สรุป

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเครื่องมือ AI สำหรับงานขายกำลังเปลี่ยนแปลงวงการและวิธีการดำเนินธุรกิจของบริษัทต่างๆ อย่างสิ้นเชิง

ข้อดีคือเทคโนโลยี AI ล้ำสมัยในปัจจุบันไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้เชี่ยวชาญหรือคนที่มีทักษะเขียนโค้ดอีกต่อไป แพลตฟอร์มอย่าง GPTBots เปิดโอกาสให้ทุกคนสร้างบอทที่ต้องการได้ง่ายๆ ผ่านอินเทอร์เฟซแบบไม่ต้องเขียนโค้ด

ขอเชิญคุณทดลองใช้ GPTBots และนำพานวัตกรรม AI มายกระดับกระบวนการขายของคุณ

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ GPTBots และทำให้ผู้ใช้ของคุณเริ่มต้นสนทนาได้ง่ายขึ้นวันนี้

• วิธีสร้าง AI Sales Funnel ทีละขั้นตอน เพิ่มยอดขายแบบมือโปร
• ระบบผู้ช่วย Agent แบบเรียลไทม์ คืออะไร และทำงานอย่างไร
• วิธีสร้าง Chatbot สู่มนุษย์แบบไร้รอยต่อ
• 9 กลยุทธ์ AI ขยายทีม Customer Support อย่างมีประสิทธิภาพ
• วิธีสร้างลูกค้าเป้าหมายบน WhatsApp แบบครบวงจร
• วิธีปรับปรุงบริการลูกค้า Call Center: 15 เคล็ดลับปี 2026