ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความคาดหวังของลูกค้าเกี่ยวกับการบริการลูกค้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก 88% ของลูกค้าระบุว่าการบริการลูกค้าที่ดีเยี่ยมช่วยเพิ่มโอกาสในการกลับมาซื้อซ้ำ นอกจากนี้ 60% ของลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าจากแบรนด์เพราะคาดหวังคุณภาพการบริการลูกค้า
แม้จะอยู่ในยุคของ AI และแชทบอทที่ลูกค้าสามารถรับคำตอบได้ทันที แต่ลูกค้าจำนวนมากยังคงชื่นชอบการใช้บริการ Call Center แบบเดิมในการติดต่อขอรับบริการ อย่างไรก็ตาม 45% ของลูกค้าต้องการให้ปัญหาของตนได้รับการแก้ไขตั้งแต่ครั้งแรกที่ติดต่อ
เนื่องจาก Call Center ยังคงเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การบริการลูกค้าของทุกธุรกิจ การมอบประสบการณ์บริการลูกค้า Call Center ที่ยอดเยี่ยมจึงเป็นสิ่งจำเป็น ในคู่มือนี้ คุณจะได้เรียนรู้วิธีปรับปรุงบริการลูกค้า Call Center ด้วย 15 เคล็ดลับที่ดีที่สุดในปี 2025 ไปดูกันเลย!

15 เคล็ดลับปรับปรุงบริการลูกค้า Call Center
คุณทราบหรือไม่ว่า 88% ของลูกค้ากล่าวว่าประสบการณ์บริการลูกค้ามีความสำคัญเทียบเท่ากับสินค้า/บริการในการตัดสินใจซื้อ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 80% ในปี 2020
มีเคล็ดลับและเทคนิคมากมายสำหรับการปรับปรุงบริการลูกค้าใน Call Center เราจึงได้คัดสรร 15 เคล็ดลับที่ดีที่สุดที่เห็นผลลัพธ์ชัดเจนมาแนะนำดังนี้

1. ทักษะการฟังอย่างตั้งใจ
เจ้าหน้าที่ควรมีทักษะการฟังอย่างตั้งใจเพื่อเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างถูกต้อง ในการพัฒนาทักษะการฟัง ควรปล่อยให้ลูกค้าอธิบายปัญหาจนจบโดยไม่ขัดจังหวะ จากนั้นทวนสิ่งที่ลูกค้าพูด รับฟังความกังวลของลูกค้า และนำเสนอวิธีแก้ไขที่เหมาะสม นอกจากนี้ การฝึกบทบาทสมมติยังช่วยเสริมทักษะการฟังได้อีกด้วย
2. ลดเวลารอสาย
ลูกค้ามักยุ่งและรู้สึกหงุดหงิดเมื่อต้องรอสายนาน ลดเวลารอสายด้วยการใช้ AI ช่วยจัดการเส้นทางสายและคิวสายโทรเข้า โดย AI จะวิเคราะห์ข้อมูลผู้โทรและส่งต่อสายไปยังเจ้าหน้าที่หรือแผนกที่เหมาะสมที่สุด นอกจากนี้ควรมีตัวเลือกให้ลูกค้าเลือกรับสายหรือข้อความกลับหากไม่ต้องการรอ
3. บริการเฉพาะบุคคลและประวัติลูกค้า
ปัจจุบัน 76% ของลูกค้าคาดหวังการบริการแบบเฉพาะบุคคล ลูกค้าที่ได้รับการตอบกลับแบบเฉพาะบุคคลจากเจ้าหน้าที่จะรู้สึกมีคุณค่า ในการสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล ควรใช้เครื่องมือ CRM เพื่อจัดเก็บและเข้าถึงประวัติลูกค้า และเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่สามารถให้บริการที่ตรงกับแต่ละบุคคลได้
4. สนทนาอย่างเป็นธรรมชาติ
แม้สคริปต์ Call Center จะช่วยให้บริการลูกค้าได้สะดวก แต่ก็อาจทำให้เจ้าหน้าที่ดูเหมือนหุ่นยนต์ได้ ดังนั้นควรรักษาการสนทนาให้เป็นธรรมชาติ เน้นการสื่อสารสองทาง เติมความเป็นกันเอง และหยุดเป็นจังหวะ นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงถ้อยคำซับซ้อนและใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย พร้อมทั้งจัดอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับน้ำเสียง ความชัดเจน และกลยุทธ์การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพเป็นประจำ
5. อธิบายวิธีแก้ไขอย่างชัดเจน
เมื่อค้นพบวิธีแก้ไขปัญหาแล้ว ควรอธิบายขั้นตอนการแก้ไขอย่างชัดเจน ระบุว่าจะดำเนินการอะไรและเพราะเหตุใด เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจทุกขั้นตอน ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในความเชี่ยวชาญของคุณและตั้งความคาดหวังที่เหมาะสม
ตัวอย่างเช่น ลูกค้าโทรมาแจ้งว่าฟีเจอร์บางอย่างในซอฟต์แวร์หายไป คุณตอบกลับว่า “ขออนุญาตตรวจสอบบัญชีของคุณเพื่อยืนยันว่าคุณใช้เวอร์ชันล่าสุด บางครั้งซอฟต์แวร์ที่ล้าสมัยอาจทำให้ไม่สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ได้ หากจำเป็น ดิฉัน/ผมจะช่วยแนะนำขั้นตอนอัปเดตและตรวจสอบระบบอย่างรวดเร็วเพื่อแก้ไขปัญหาอื่น ๆ ด้วย”
หลังจากตรวจสอบและช่วยอัปเดตเรียบร้อยแล้ว คุณยืนยันว่าทุกอย่างกลับมาใช้งานได้ตามปกติ พร้อมสอบถามว่ามีคำถามเพิ่มเติมหรือไม่ วิธีนี้จะช่วยให้แน่ใจว่าการแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างราบรื่น
6. ความเข้าใจและสติปัญญาทางอารมณ์
เมื่อลูกค้าติดต่อฝ่ายสนับสนุนเพราะเจอปัญหา มักจะรู้สึกหงุดหงิดหรือกังวล เจ้าหน้าที่จึงควรแสดงความอดทนและเข้าใจความรู้สึกของลูกค้า เพื่อช่วยคลี่คลายสถานการณ์และเพิ่มความพึงพอใจ ควรเชื่อมโยงกับลูกค้าในระดับอารมณ์ และได้รับการฝึกอบรมด้านความเข้าใจและสติปัญญาทางอารมณ์ เพื่อเปลี่ยนประสบการณ์ที่ไม่ดีให้กลายเป็นประสบการณ์เชิงบวก
7. ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง
ควรอัปเดตทักษะและความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ให้กับทีมอย่างต่อเนื่องผ่านโปรแกรมฝึกอบรม ใช้เครื่องมือฝึกอบรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI และคอร์สที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทีมมีประสิทธิภาพสูงสุด

8. ใช้ AI ช่วยสรุปและแนะนำการสนทนา
อีกวิธีที่ช่วยยกระดับประสบการณ์บริการลูกค้าใน Call Center คือการนำ AI มาช่วยสรุปบทสนทนาและแนะนำขั้นตอนถัดไปโดยอัตโนมัติ AI สามารถสรุปรายละเอียดการสนทนาแบบเรียลไทม์และแนะนำสิ่งที่ควรดำเนินการต่อให้กับเจ้าหน้าที่ การผสานรวมนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า
9. ให้บริการแบบ Omnichannel
ปัจจุบันลูกค้าต้องการติดต่อผ่านช่องทางที่สะดวก ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ อีเมล โซเชียลมีเดีย หรือแชท ดังนั้นการให้บริการแบบ Omnichannel จึงจำเป็น เพื่อมอบความยืดหยุ่นและสร้างระบบสื่อสารแบบรวมศูนย์ อีกทั้งยังช่วยลดจำนวนสายโทรเข้า เพราะลูกค้ากระจายไปตามช่องทางต่าง ๆ
10. สร้างฐานความรู้
เจ้าหน้าที่ Call Center ควรเข้าถึงฐานความรู้ที่ครอบคลุม เช่น ข้อมูลผลิตภัณฑ์ คำถามที่พบบ่อย และขั้นตอนการแก้ไขปัญหา ควรสร้างฐานความรู้แบบรวมศูนย์ที่เจ้าหน้าที่ทุกคนเข้าถึงได้ และอัปเดตข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ
ด้วย GPTBots คุณสามารถสร้าง Enterprise Knowledge Base สำหรับองค์กรได้ เพียงอัปโหลดไฟล์ PDF และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับนโยบายบริษัท คำถามที่พบบ่อย คู่มือแก้ไขปัญหา ฯลฯ จากนั้นระบบจะดึงข้อมูลสำคัญจากเอกสารเพื่อสร้างฐานความรู้ที่ครอบคลุมสำหรับเจ้าหน้าที่ และยังมี Enterprise AI Search ที่ช่วยให้เจ้าหน้าที่ค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วินาที

11. ลดความเหนื่อยล้าของเจ้าหน้าที่
จากรายงานพบว่าเจ้าหน้าที่สนับสนุนกว่า 63% ประสบปัญหาความเหนื่อยล้า ส่งผลให้อัตราการลาออกต่อปีสูงถึง 30-50% ดังนั้นควรลดความเหนื่อยล้าด้วยการจัดตารางงานที่สมดุล จัดโปรแกรมดูแลสุขภาพ แบ่งงานอย่างเป็นธรรม ให้เจ้าหน้าที่ได้พักผ่อนอย่างสม่ำเสมอ และมาตรการอื่น ๆ
12. ส่งเสริมการแก้ปัญหาในครั้งแรก (FCR)
อีกหนึ่งเคล็ดลับสำคัญในการปรับปรุงบริการลูกค้า Call Center คือเน้นการแก้ปัญหาให้จบในครั้งแรก เพราะจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า โดยมาตรฐาน FCR ที่ดีอยู่ที่ประมาณ 70% ควรให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงเครื่องมือและมีอำนาจในการตัดสินใจ เพื่อแก้ปัญหาได้ทันที
13. ใช้แชทบอท AI
แชทบอท AI คือผู้ช่วยอัจฉริยะที่ตอบคำถามทั่วไปแทนเจ้าหน้าที่ได้อัตโนมัติ สามารถเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ แอป หรือช่องทางอื่น ๆ เพื่อให้คำแนะนำลูกค้าได้ทันทีในประเด็นที่ซับซ้อน ดังนั้นควรเลือกแชทบอท AI ที่เหมาะสม ฝึกและนำไปใช้ในระบบองค์กร เพื่อให้เจ้าหน้าที่มนุษย์โฟกัสกับปัญหาที่ซับซ้อนมากขึ้น

GPTBots ช่วยให้คุณ สร้างแชทบอท AI สำหรับองค์กร ที่รองรับหลายภาษา 24 ชั่วโมง มากกว่า 90 ภาษา สามารถแก้ไขปัญหาลูกค้าได้อัตโนมัติสูงสุด 90% และปรับโทน/สไตล์ให้ใกล้เคียงกับการสื่อสารของมนุษย์
14. รวบรวมความคิดเห็นลูกค้า & ดำเนินการต่อยอด
ข้อเสนอแนะจากลูกค้าเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญที่ช่วยระบุจุดอ่อนของคอลเซ็นเตอร์ สามารถชี้เป้าจุดที่ต้องปรับปรุง ปัญหาซ้ำซาก ประเมินผลงานเจ้าหน้าที่ ฯลฯ ควรรวบรวมฟีดแบ็กอย่างสม่ำเสมอผ่านแบบสอบถาม การบันทึกเสียงสนทนา และรีวิว แล้วนำข้อมูลเชิงลึกที่ได้ไปปรับปรุงแก้ไข

คุณสามารถลดความยุ่งยากในการรวบรวมและวิเคราะห์ฟีดแบ็กลูกค้าด้วย AI เช่น ใช้ GPTBots AI Agents ในการสื่อสารกับลูกค้าและสร้างรายงานหรือ วิเคราะห์ข้อมูล เกี่ยวกับการโต้ตอบกับลูกค้าได้โดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังสามารถอัตโนมัติกระบวนการเก็บฟีดแบ็กและลดต้นทุนแรงงานได้อีกด้วย
15. กำหนดและวัดผลตัวชี้วัดสำคัญ (KPI)
วิธีตรวจสอบประสิทธิภาพของคอลเซ็นเตอร์ที่สำคัญคือการกำหนดและวัดผล KPI เช่น คะแนนความพึงพอใจของลูกค้า, เวลาเฉลี่ยในการรอสาย, การแก้ไขปัญหาได้ตั้งแต่ครั้งแรก ฯลฯ ควรกำหนดชุด KPI ที่เหมาะสมและติดตามผลอย่างต่อเนื่องเพื่อระบุและแก้ไขจุดบกพร่อง
วิธีแก้ปัญหาล่าสุดที่ดีที่สุดเพื่อยกระดับบริการลูกค้า Call Center
นอกจากเคล็ดลับข้างต้นเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะการบริการลูกค้าในคอลเซ็นเตอร์แล้ว ยังมีแนวทางที่ดีที่สุดอื่น ๆ ในการยกระดับบริการลูกค้าดังนี้

ใช้ประโยชน์จาก Enterprise AI Agents
Enterprise AI Agents คือผู้ช่วยเสียงและแชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถตอบคำถามทั่วไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัว AI เหล่านี้ถูกฝึกด้วยฐานความรู้ขององค์กรและใช้ NLP กับ ML ในการตีความและโต้ตอบกับลูกค้าอย่างแม่นยำ สามารถเชื่อมต่อกับเว็บไซต์หรือช่องทางสื่อสารอื่น ๆ เพื่อให้บริการลูกค้า 24 ชั่วโมง พร้อมตอบกลับทันที
ข้อดีหลักของการใช้ AI Agents ได้แก่:
- ลดเวลารอ: รองรับคำถามหลายรายการพร้อมกัน ลดเวลารอลูกค้า
- เพิ่มอัตราการแก้ปัญหา: ตอบกลับอย่างแม่นยำและอัตโนมัติผ่านฐานความรู้ขององค์กร เพิ่มอัตราการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ครั้งแรก
- บริการ 24 ชั่วโมง: ให้บริการลูกค้าได้ตลอดเวลา ไม่มีวันหยุด
- รองรับ Omnichannel: เชื่อมต่อกับทุกแพลตฟอร์มสื่อสารยอดนิยม เช่น เว็บไซต์ แอป โซเชียลมีเดีย ฯลฯ
- ขยายขนาดได้: รองรับปริมาณคำถามลูกค้าที่เพิ่มขึ้นได้โดยไม่ลดคุณภาพบริการ
- ลดภาระเจ้าหน้าที่: อัตโนมัติ FAQ ช่วยให้เจ้าหน้าที่มีเวลาจัดการปัญหาซับซ้อนมากขึ้น
- เพิ่มความพึงพอใจ: สร้างประสบการณ์บริการที่ตอบโจทย์ รวดเร็ว และเฉพาะบุคคลให้กับลูกค้า
โดยรวมแล้ว การใช้ Enterprise AI Agents ถือเป็นกลยุทธ์ที่สมบูรณ์แบบในการยกระดับบริการลูกค้า Call Center ด้วยการลดปริมาณสายและนำลูกค้าเข้าสู่พอร์ทัลบริการตนเองเพื่อรับคำตอบทันที
ตัวอย่างบริษัทที่ใช้ AI Agents เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานคอลเซ็นเตอร์ มีดังนี้:
-
Payoneer
Payoneer เป็นบริษัทบริการทางการเงินที่ช่วยให้โอนเงินระหว่างประเทศและเข้าถึงบริการชำระเงินดิจิทัลอื่น ๆ ได้สะดวก โดยได้ผสาน AI Agent ลงในเว็บไซต์เพื่อช่วยตอบคำถามที่พบบ่อยโดยอัตโนมัติ ช่วยให้ลูกค้าสามารถแก้ไขปัญหาทั่วไปได้ด้วยตนเอง และลดจำนวนการโทรติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง
-
Netwealth
Netwealth เป็นบริษัทการเงินชั้นนำในออสเตรเลียที่ใช้ AI Call Center เพื่อจัดการปริมาณคำถามที่เพิ่มขึ้นและตอบสนองความคาดหวังของลูกค้า หลังจากนำ AI Call Center มาใช้ ลูกค้าของ Netwealth สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ภายใน 60 วินาที และเจ้าหน้าที่สามารถแก้ไขปัญหาตั๋วได้ถึง 99% ในการติดต่อเพียงครั้งเดียว
-
Turkish Airlines
Turkish Airlines เป็นสายการบินระดับโลกที่ให้บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศกว่า 265 จุดหมายปลายทาง โดยได้ผสานแชทบอท AI ลงในเว็บไซต์ ซึ่งสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับการจองตั๋ว การติดตามสัมภาระ การอนุญาตน้ำหนักกระเป๋า และอื่น ๆ ได้ ส่งผลให้ลดจำนวนสายที่เจ้าหน้าที่ต้องรับผิดชอบ
GPTBots สำหรับ Call Center: โซลูชัน AI ที่ดีที่สุดสำหรับบริการลูกค้า
หากคุณต้องการใช้โซลูชัน AI สำหรับ Call Center จำเป็นต้องมีแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือในการสร้าง ฝึกฝน และนำ AI Agent ไปใช้งาน ซึ่ง GPTBots สามารถตอบโจทย์นี้ได้
GPTBots ช่วยสร้างโซลูชัน AI ที่ปรับแต่งเฉพาะสำหรับองค์กร สามารถสร้าง AI Agent สำหรับงานบริการลูกค้า วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ค้นหาข้อมูลในองค์กร ฯลฯ เช่น เสริมประสิทธิภาพฝ่ายบริการลูกค้าด้วยข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ เช่น อัตราการได้ลูกค้าใหม่, จุดปัญหาที่ลูกค้าพบบ่อย เป็นต้น อีกทั้งยังแปลงข้อมูลดิบให้เป็นข้อมูลเชิงภาพที่นำไปใช้ตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ความสามารถหลักของ GPTBots ที่ธุรกิจสามารถนำไปใช้ได้ ได้แก่:
- การสร้างตั๋วอัตโนมัติ: ระบบจะสร้างตั๋วและจัดส่งไปยังเจ้าหน้าที่ที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ ลดงานที่ต้องทำด้วยมือและเพิ่มความเร็วในการแก้ไขปัญหา
- การวิเคราะห์อารมณ์: Bot สามารถเข้าใจอารมณ์ของลูกค้าและสร้างประสบการณ์สนทนาแบบเฉพาะบุคคลมากขึ้น
- การช่วยเหลือเชิงรุก: สามารถคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าและเสนอทางแก้ไขก่อนที่ปัญหาจะลุกลาม
ด้วย GPTBots บริษัทสามารถอัตโนมัติการแก้ไขปัญหาลูกค้าได้ถึง 90% และปลดล็อกคุณค่าของข้อมูลเพื่อการตัดสินใจที่ดีขึ้น ตัวอย่างความสำเร็จจากธุรกิจที่ใช้ GPTBots มีดังนี้:
กรณีศึกษา #1 AI สนับสนุนการบริการร้านขายยาออนไลน์
ร้านขายยาออนไลน์ชั้นนำต้องเผชิญกับความท้าทายในการขยายบริการให้ครอบคลุมร้านคู่ค้ากว่า 800 แห่งและควบคุมต้นทุนการดำเนินงาน โซลูชัน AI จาก GPTBots ได้ช่วยเหลือบริษัทในด้าน:
- แก้ไขปัญหาได้ 85% ด้วยการตอบสนองแบบเรียลไทม์
- ความแม่นยำในการตอบกลับ 95% ด้วยการเชื่อมต่อข้อมูลบริษัท
- ให้บริการลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้วย GPTBots บริษัทสามารถลดการพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ลดต้นทุน และยกระดับการให้คำปรึกษาแบบเฉพาะบุคคล
กรณีศึกษา #2 การฝึกอบรมทีมสนับสนุนลูกค้าด้วย AI
บริษัท IT ที่มีพนักงานกว่า 1,000 คน ต้องการระบบฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โซลูชันฝึกอบรมด้วย AI ของ GPTBots มอบผลลัพธ์ดังนี้:
- เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการทดสอบได้ 70%
- ปรับปรุงประสิทธิผลการฝึกอบรม 50% ด้วยการให้ข้อเสนอแนะแบบเรียลไทม์

แนวทางการเรียนรู้อัตโนมัตินี้ช่วยเสริมศักยภาพทีมงานและยกระดับคุณภาพการบริการลูกค้า
แนวทางปฏิบัติและกรณีใช้งาน AI Agent ที่ดีที่สุด
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดและกรณีการใช้งาน AI Agent มีดังนี้:
E-commerce
AI Agent สามารถจัดการกับคำถามเกี่ยวกับการสั่งซื้อจำนวนมาก เช่น สถานะคำสั่งซื้อ การจัดส่ง การคืนสินค้า ฯลฯ ลูกค้าสามารถตรวจสอบข้อมูลหรือแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องรอคิวคุยกับเจ้าหน้าที่

Healthcare
AI Agent ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการด้านสุขภาพ เช่น การนัดหมาย ส่งแจ้งเตือนยา ให้คำแนะนำสุขภาพ และอื่น ๆ

Banking & Finance
AI Agent ช่วยงานธนาคารและการเงินในหลายด้าน เช่น ตรวจสอบธุรกรรมแบบเรียลไทม์ แจ้งเตือนธุรกรรมที่น่าสงสัย อัตโนมัติในการยืนยันตัวตน ตอบคำถามลูกค้า ฯลฯ

Telecom
AI Agent ช่วยให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมสื่อสารกับลูกค้าเชิงรุก วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ส่งข้อเสนอเฉพาะบุคคล และแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุป
การบริการลูกค้า Call Center ที่ยอดเยี่ยมประกอบด้วยปัจจัยสำคัญ เช่น ความรวดเร็ว การตอบสนองที่ดี ความเป็นมิตร ความเชี่ยวชาญ ฯลฯ ซึ่งบทความนี้ได้สรุป 15 เคล็ดลับในการยกระดับบริการลูกค้า Call Center กรุณานำแนวทางเหล่านี้ไปปรับใช้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
นอกจากนี้ ขอแนะนำให้คุณ นำโซลูชัน AI จาก GPTBots ไปใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านอัตโนมัติ การวิเคราะห์ และการสื่อสารกับลูกค้า
เริ่มใช้ฟรี