avatar

มินตรา

อัปเดต: 2025-09-01

2764 การดู, 6 min อ่าน

GPTBots, ChatBot, Botpress และอีกมากมาย คือแพลตฟอร์ม AI สำหรับบริการลูกค้าที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ติดตามเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเลือกยอดนิยมเหล่านี้

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเปลี่ยนประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ ด้วยการแนะนำสินค้าเฉพาะบุคคล การตอบกลับรวดเร็ว และอีกมากมาย รายงาน Rep AI Ecommerce Shopper Behavior Report 2025 ระบุว่า AI Agents สามารถแก้ไข 93% ของคำถามลูกค้าได้โดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์

ร้านค้าออนไลน์ส่วนใหญ่ได้นำ AI มาใช้เพื่อช่วยเหลือลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น และอีกหลายรายกำลังวางแผนจะใช้ในเร็วๆ นี้ ทำให้มีแพลตฟอร์มบริการลูกค้า AI มากมายที่พร้อมช่วยธุรกิจอีคอมเมิร์ซผสาน AI เข้ากับบริการซัพพอร์ตของตน จึงเกิดคำถามขึ้นว่า:

“แพลตฟอร์ม AI Agent อะไรบ้าง ที่เหมาะกับการดูแลลูกค้าในอีคอมเมิร์ซ?”

จากตัวเลือกมากมาย เราได้คัดสรร 7 แพลตฟอร์มบริการลูกค้า AI ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เพื่อยกระดับประสบการณ์ซัพพอร์ตด้วย AI ติดตามเพื่อดูกรณีการใช้งาน AI ในการบริการลูกค้า และเครื่องมือที่ควรพิจารณา

แพลตฟอร์มผู้ช่วยลูกค้า AI สำหรับอีคอมเมิร์ซ

AI ช่วยยกระดับการบริการลูกค้าในอีคอมเมิร์ซได้อย่างไร?

ก่อนจะพูดถึงกรณีการใช้งานบริการลูกค้า AI ในอีคอมเมิร์ซ มาดู

ปัญหาการบริการลูกค้าในอีคอมเมิร์ซหากไม่มี AI:

  • การตอบกลับช้า ต้องรอนาน ลูกค้าไม่พอใจ
  • คุณภาพการบริการลูกค้าไม่สม่ำเสมอในแต่ละเจ้าหน้าที่
  • ต้นทุนการดำเนินงานสูง เพราะต้องใช้ทีมบริการลูกค้าขนาดใหญ่
  • ให้บริการได้น้อยนอกเวลาทำการ
  • จัดการกับคำถามซ้ำจำนวนมากได้ยาก
  • ขาดปฏิสัมพันธ์แบบเฉพาะบุคคล
  • เสี่ยงต่อความผิดพลาดของมนุษย์ในการให้ข้อมูลและแก้ไขปัญหา

AI กลายเป็นเจเนอเรชั่นใหม่ของการบริการลูกค้าที่ขับเคลื่อนโดยมนุษย์ แก้ปัญหาข้างต้นด้วยความชาญฉลาด ผสานการปรับแต่งเฉพาะบุคคลและระบบอัตโนมัติ แล้ว AI ช่วยได้อย่างไร? ดูกรณีการใช้งานและข้อดีของ AI ในการยกระดับบริการลูกค้าอีคอมเมิร์ซด้านล่างนี้:

กรณีการใช้งาน AI ในบริการลูกค้าอีคอมเมิร์ซ

1. การแนะนำสินค้าเฉพาะบุคคล

ปัจจุบัน 81% ของลูกค้าเลือกธุรกิจที่มอบประสบการณ์เฉพาะบุคคล AI วิเคราะห์ประวัติการซื้อและการเรียกดูของลูกค้า เพื่อแนะนำสินค้าที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล วิธีนี้ช่วยเพิ่มยอดขายและความพึงพอใจของลูกค้า ตัวอย่างเช่น SHEIN ใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมและความสนใจแบบเรียลไทม์ เพื่อแนะนำสินค้าเฉพาะบุคคล

การปฏิสัมพันธ์แบบเฉพาะบุคคล

2. แชทบอทและผู้ช่วยเสมือน

AI แชทบอทกำลังกลายเป็นด่านแรกในการตอบคำถามลูกค้า สามารถให้บริการ 24 ชั่วโมง ตอบคำถามที่พบบ่อย ติดตามออเดอร์ ช่วยเหลือการสั่งซื้อ จัดการคืนสินค้า ฯลฯ ในความเป็นจริง แชทบอท AI สามารถจัดการ 80% ของคำถามและงานประจำของลูกค้าได้

ลูกค้าไม่ต้องรอนานหรือเจอการตอบกลับที่ล่าช้าอีกต่อไป สามารถรับคำตอบได้ทันที แชทบอทยังสามารถส่งต่อไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาทางเทคนิคได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้ช่วยเพิ่มความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้า

แชทบอทและผู้ช่วยเสมือน

ตัวอย่างเช่น ใช้โซลูชันสนับสนุนลูกค้า AI เพื่อมอบ การปรึกษาสุขภาพเฉพาะบุคคลตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งออกแบบมาเพื่อเข้าใจภูมิหลังของผู้ใช้และวิเคราะห์ผลแลป เทมเพลตนี้ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน พร้อมยกระดับความพึงพอใจของลูกค้าด้วยการตอบกลับที่รวดเร็วและตรงจุด

การปรึกษาสุขภาพด้วย AI ที่ร้านขายยา

ร้านขายยาออนไลน์ชั้นนำได้นำระบบสนับสนุนลูกค้า AI ของ GPTBots มาใช้ ให้บริการปรึกษาสุขภาพเฉพาะบุคคลตลอด 24 ชั่วโมง โดยเข้าใจภูมิหลังของผู้ใช้และวิเคราะห์ผลแลป โซลูชันนี้ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าด้วยการตอบกลับที่รวดเร็วและตรงจุด

3. การทำงานอัตโนมัติของกระบวนการบริการลูกค้า

การใช้ AI ในบริการและสนับสนุนลูกค้าอีคอมเมิร์ซ ไม่ได้จำกัดแค่การตอบคำถามลูกค้า แต่ยังสามารถทำงานซ้ำ ๆ อัตโนมัติ เช่น การสร้างทิกเก็ต ตอบอีเมล เชื่อมต่อข้อมูลกับ CRM และอื่น ๆ อีกมากมาย เจ้าหน้าที่บริการลูกค้าสามารถประหยัดเวลาได้ถึง 2 ชั่วโมง 20 นาที ต่อวัน ด้วยการนำแชทบอทมาใช้ในอีคอมเมิร์ซเพื่อให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ

4. การมีส่วนร่วมกับลูกค้าเชิงรุก

ผู้ช่วยเสมือน AI สามารถเริ่มต้นการสนทนาและให้การสนับสนุนเชิงรุก เช่น แจ้งเตือนตะกร้าสินค้าที่ถูกทิ้ง แนะนำสินค้า ฯลฯ งานวิจัยของ The Rep ระบุว่าการสนทนาเชิงรุกด้วย AI สามารถช่วยกู้คืนตะกร้าสินค้าที่ถูกทิ้งได้ถึง 35%

5. ความสม่ำเสมอและความถูกต้องแม่นยำ

เจ้าหน้าที่บริการลูกค้ามีโอกาสผิดพลาดและอาจให้บริการไม่สม่ำเสมอในแต่ละคน แต่ AI ไม่เป็นเช่นนั้น โซลูชันบริการลูกค้า AI สำหรับอีคอมเมิร์ซมอบประสบการณ์บริการที่สม่ำเสมอและข้อมูลที่ถูกต้อง ลูกค้าจะได้รับการสนับสนุนที่เชื่อถือได้ทุกครั้งที่ติดต่อ

6. การวิเคราะห์อารมณ์และข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า

AI วิเคราะห์อารมณ์และความคิดเห็นของลูกค้าแบบเรียลไทม์ ให้ข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยให้ธุรกิจปรับปรุงสินค้า บริการ และกลยุทธ์สนับสนุน ส่งผลให้ความพึงพอใจของลูกค้าดีขึ้น

แพลตฟอร์มบริการลูกค้า AI ที่ดีที่สุดสำหรับอีคอมเมิร์ซ

บริษัทที่ใช้โซลูชัน AI พบว่า ความพึงพอใจของลูกค้าเพิ่มขึ้น 25% นอกจากนี้ แชทบอท AI ยังให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยต้นทุนต่ำกว่าพนักงานจริงถึง 30%

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI คือจุดเปลี่ยนของบริการลูกค้า แต่คำถามสำคัญคือควรเลือกแพลตฟอร์มใด เพื่อให้คุณตัดสินใจง่ายขึ้น เราได้คัดสรร 7 แพลตฟอร์มบริการลูกค้า AI ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซไว้ให้แล้ว

#1. GPTBots

GPTBots คือแพลตฟอร์มบริการลูกค้า AI ที่ทรงพลังสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ไม่ใช่แค่แชทบอท แต่ทำหน้าที่เหมือนทีมบริการลูกค้าเสมือนที่สามารถตอบคำถามทั่วไป แนะนำสินค้าเฉพาะบุคคล ทำงานซ้ำ ๆ อัตโนมัติ เก็บฟีดแบ็ก ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับลูกค้า และอีกมากมาย

GPTBots มอบโซลูชัน AI แบบครบวงจรให้กับธุรกิจ ลดความจำเป็นในการใช้แรงงานคนจำนวนมากและช่วยประหยัดต้นทุนดำเนินงานอย่างมาก ให้บริการ AI Agent หลากหลายฟังก์ชัน เช่น การรวมแชทบอท AI, อีเมลมาร์เก็ตติ้งเอเจนต์ และเอเจนต์รับสายขาย

จุดเด่นของ GPTBots คือช่วยพัฒนาและนำ AI Agent ไปใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น การแพทย์ อสังหาริมทรัพย์ การเงิน และอื่น ๆ

ผู้ช่วย AI สำหรับองค์กรจาก GPTBots

คุณสมบัติเด่น

  • ให้บริการ AI Agent ลูกค้า 24/7 ที่ทรงพลัง ตอบคำถาม แนะนำสินค้าแบบเฉพาะบุคคล นัดหมาย และอื่น ๆ
  • เพิ่มองค์ความรู้จากแหล่งต่าง ๆ ลงในฐานข้อมูลของ AI Agent
  • มี Visual builder และทีมผู้เชี่ยวชาญช่วยพัฒนาและติดตั้ง AI Agent
  • สนทนาแบบไดนามิก พร้อมตอบกลับด้วยมัลติมีเดีย
  • ผสานการทำงานกับระบบองค์กรผ่าน API ได้อย่างราบรื่น
  • มั่นใจในประสบการณ์ที่สม่ำเสมอ ปรับเปลี่ยนได้ และสร้างความประทับใจให้ลูกค้า
  • รองรับมากกว่า 90 ภาษาและสำเนียงที่แตกต่าง
  • กำหนดเส้นทางคำถามซับซ้อนไปยังเจ้าหน้าที่ที่เหมาะสมอย่างชาญฉลาด
  • ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพ เช่น อัตราการแก้ปัญหา, คะแนน CSAT, อัตราการโอนให้เจ้าหน้าที่ และอื่น ๆ
  • เชื่อมต่อกับเครื่องมือ third-party หลากหลาย เช่น WhatsApp, Zendesk, Line, Shopify, Telegram, Teams, Slack, Discord, Instagram และ live chat

กลุ่มเป้าหมาย: เหมาะสำหรับทีมซัพพอร์ตลูกค้าอีคอมเมิร์ซทุกขนาด ด้วยฟีเจอร์ครบครันและการขยายระบบที่ยืดหยุ่น

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซและธุรกิจอื่น ๆ ที่ใช้ GPTBots agent รายงานว่าสามารถแก้ปัญหาอัตโนมัติได้สูงถึง 90% และลดต้นทุนได้ 70% สรุปคือ GPTBots เป็นแพลตฟอร์ม AI Agent ที่ปรับแต่งได้ รองรับหลายอุตสาหกรรม และเปลี่ยนงานซัพพอร์ตลูกค้าให้มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์เฉพาะบุคคลสูงสุด

#2. ChatBot

ChatBot คือหนึ่งในแพลตฟอร์ม AI ซัพพอร์ตลูกค้าอีคอมเมิร์ซที่ใช้งานง่ายและดีที่สุด ให้บริการแพลตฟอร์ม SaaS แบบ no-code สำหรับสร้างและติดตั้งแชทบอท AI เพื่อรับมือกับคำถามลูกค้า จัดการออเดอร์ แนะนำสินค้าแบบเฉพาะบุคคล และอื่น ๆ

ChatBot ยังช่วยทีมขายโดยเข้าหาลูกค้าบนเว็บไซต์เชิงรุก แนะนำสินค้า และเพิ่มยอดขาย สามารถเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลความรู้ภายใน และให้บริการ AI บนเว็บไซต์, WhatsApp, Zendesk และแพลตฟอร์มอื่น ๆ

ภาพรวมของ chatbot

จุดเด่น

  • Visual bot builder แบบลาก-วาง
  • มีเทมเพลตสำเร็จรูปสำหรับกรณีใช้งานยอดนิยม
  • จัดการคำถามลูกค้าส่วนใหญ่ได้อัตโนมัติ
  • ฝึกบอทด้วยฐานข้อมูลความรู้ภายใน
  • เชื่อมต่อกับหลายแพลตฟอร์ม
  • วิเคราะห์ประสบการณ์ลูกค้า
  • โอนต่อให้เจ้าหน้าที่สดได้

กลุ่มเป้าหมาย: เหมาะสำหรับร้านอีคอมเมิร์ซขนาดเล็กถึงกลาง ที่ต้องการระบบซัพพอร์ตลูกค้าอัตโนมัติด้วย AI

สรุป ChatBot คือแพลตฟอร์ม AI ที่ช่วยแก้ปัญหาซัพพอร์ตลูกค้าอีคอมเมิร์ซได้อย่างชาญฉลาดและอัตโนมัติ

#3. Botpress

Botpress เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือซัพพอร์ตลูกค้าอีคอมเมิร์ซที่ครบเครื่อง ช่วยสร้างแชทบอท AI ที่ปลอดภัย รองรับการทำงานร่วมกับทีมซัพพอร์ตลูกค้าและทีมการตลาด

Botpress มี visual canvas แบบลาก-วาง สำหรับออกแบบ flow แชทบอทครบวงจรโดยไม่ต้องเขียนโค้ด พร้อมซิงค์ข้อมูลกับฐานความรู้และระบบภายใน เพื่อให้ตอบกลับลูกค้าได้แม่นยำและอัปเดตเสมอ

botpress

จุดเด่น

  • canvas แบบ visual ไม่ต้องเขียนโค้ดสำหรับสร้างแชทบอท
  • รองรับงานบริการลูกค้าหลากหลายรูปแบบ
  • ฝึกบอทด้วยฐานข้อมูลความรู้ขององค์กร
  • วิเคราะห์ประสิทธิภาพบอทแบบเรียลไทม์
  • ระบบเข้ารหัสข้อมูลชั้นนำ

กลุ่มเป้าหมาย: เหมาะสำหรับแบรนด์อีคอมเมิร์ซที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวหรือข้อกำหนดด้านกฎหมาย และต้องการแพลตฟอร์ม AI ที่ขยายระบบได้ทั่วโลก

สรุป Botpress คือแพลตฟอร์ม AI Agent ที่ยืดหยุ่นและขยายได้ เหมาะกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ต้องการแชทบอทแบบปรับแต่งได้เต็มที่

#4. Ada

หากคุณเป็นผู้ค้าปลีกอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ Ada คือแพลตฟอร์มการบริการลูกค้า AI ที่ใช้งานง่าย มาพร้อมเครื่องมือสร้างแชทบอทแบบไม่ต้องเขียนโค้ด ให้คุณสร้างแชทบอท AI เฉพาะธุรกิจและฝึกด้วยฐานความรู้ขององค์กรได้อย่างรวดเร็ว แชทบอทนี้สามารถตอบคำถามที่พบบ่อย, จัดการข้อพิพาทเกี่ยวกับคำสั่งซื้อ, การนัดหมาย ฯลฯ

Ada สามารถเชื่อมต่อแชทบอทเข้ากับ CRM และเครื่องมืออีคอมเมิร์ซยอดนิยม เช่น Salesforce, Shopify, Zendesk ฯลฯ รองรับหลายภาษาและให้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อขับเคลื่อนการตัดสินใจด้วยข้อมูล

ada

จุดเด่น

  • Visual chatbot builder
  • ฟีเจอร์แชทบอทหลากหลาย ช่วยแก้ปัญหาอัตโนมัติได้เกือบทั้งหมด
  • ทดสอบ A/B เพื่อปรับปรุงคุณภาพ
  • เชื่อมต่อกับระบบต่าง ๆ ได้หลากหลาย
  • วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก

กลุ่มเป้าหมาย: เหมาะสำหรับแบรนด์อีคอมเมิร์ซที่มีฐานธุรกิจมั่นคงและต้องการ AI Agent คุณภาพสูง

สรุปแล้ว Ada คือแพลตฟอร์มแบบครบวงจรสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ต้องการบริการลูกค้าด้วย AI ขั้นสูง

#5. Chatfuel

สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการเครื่องมือบริการลูกค้าและซัพพอร์ตแบบ AI ที่ใช้งานง่ายสำหรับร้านอีคอมเมิร์ซ Chatfuel คือแพลตฟอร์มที่ทีมบริการลูกค้า ฝ่ายขาย และการตลาดต้องชื่นชอบ

Chatfuel สามารถตอบคำถามที่พบบ่อย, คัดกรองลูกค้า, จองนัดหมาย, ตอบคอมเมนต์, แนะนำสินค้า และอื่น ๆ อีกมากมาย มี visual flow builder ที่ใช้งานง่าย สร้างบอทได้ในไม่กี่นาที พร้อมเชื่อมต่อกับ Calendly, Shopify, Stripe, Zapier, HubSpot ฯลฯ

chatfuel

จุดเด่น

  • Visual flow builder
  • บอทสำหรับบริการลูกค้า งานขาย และการตลาด
  • ปรับเปลี่ยนตามคำขอลูกค้าด้วยระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI
  • ส่งข้อความเฉพาะบุคคลเชิงรุก
  • รองรับการสั่งซื้อ ติดตามสถานะ คืนสินค้า และขอเงินคืนแบบอัตโนมัติ
  • เชื่อมต่อกับเครื่องมือสำคัญ เช่น Calendly, Shopify, Stripe, Zapier ฯลฯ
  • ผสานการทำงานกับโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook Messenger, Instagram Direct และ WhatsApp Business
  • แนะนำสินค้า กู้คืนตะกร้าสินค้า และจัดแคมเปญโปรโมชั่น

กลุ่มเป้าหมาย: เหมาะสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย มอบฟังก์ชันแชทบอท AI ทรงพลังเพื่อเพิ่มยอดขายและยกระดับบริการ

สรุปแล้ว Chatfuel คือแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ต้องการผสาน AI เข้ากับการบริการลูกค้าและการขาย

#6. Kustomer

Kustomer คือแพลตฟอร์ม CRM การบริการลูกค้าเสริม AI ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับการซัพพอร์ตระดับองค์กรด้วยระบบอัตโนมัติอัจฉริยะและข้อมูลเชิงลึกแบบครบถ้วน รวมทุกช่องทางการสื่อสารและข้อมูลลูกค้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียว

Kustomer ให้มุมมองแบบ 360 องศาต่อทุกปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า ครอบคลุมทั้งโทรศัพท์ อีเมล แชทสด SMS โซเชียลมีเดีย และแอปแชท พร้อมฟีเจอร์แนะนำแบบ context-aware ระหว่างแชทสดเพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่

kustomer

จุดเด่น

  • โปรไฟล์ลูกค้าแบบรวมศูนย์
  • ระบบอัตโนมัติสำหรับงานประจำ
  • บริการลูกค้าเชิงรุกด้วยข้อมูลคาดการณ์ล่วงหน้า
  • เชื่อมต่อ CRM อย่างลึกซึ้งเพื่อเข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้ราบรื่น
  • Agent copilot ขับเคลื่อนด้วย AI ให้คำแนะนำและตอบกลับแบบเรียลไทม์แก่ทีมซัพพอร์ต
  • วิเคราะห์เชิงลึกทั้งการมีส่วนร่วมของลูกค้าและประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่

กลุ่มเป้าหมาย: เหมาะสำหรับทีมบริการลูกค้าอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ที่ต้องการแชทบอท AI และแพลตฟอร์ม CRM ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเพื่อจัดการงานซัพพอร์ต

กล่าวโดยสรุป Kustomer มอบโซลูชันการบริการลูกค้าแบบครบวงจรสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน

#7. Yuma

ตัวสุดท้ายในลิสต์เครื่องมือ AI สำหรับบริการลูกค้าอีคอมเมิร์ซของเรา คือ Yuma แพลตฟอร์ม AI ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับแบรนด์อีคอมเมิร์ซ เพื่อเพิ่มรายได้และยกระดับความพึงพอใจของลูกค้า

Yuma ให้บริการแก้ไขปัญหาตั๋ว (ticket) อัตโนมัติสำหรับปัญหาทั่วไป เช่น สถานะคำสั่งซื้อ ปัญหาการชำระเงิน การเปลี่ยนสินค้า การคืนเงิน และอื่น ๆ พร้อมทั้งส่งข้อความเชิงรุกและข้อเสนอแบบเฉพาะบุคคลเพื่อกระตุ้นยอดขาย นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มสื่อสารยอดนิยมในวงการอีคอมเมิร์ซ เพื่อให้บริการอย่างต่อเนื่อง

yuma

จุดเด่น

  • แก้ไขปัญหาและเปลี่ยนแปลงข้อมูลคำสั่งซื้อแบบอัตโนมัติ
  • แชทบอทสนทนาอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยี NLP ขั้นสูง
  • ระบบอัตโนมัติสำหรับงานซ้ำ ๆ เช่น การสร้างตั๋วและอัปเดตสถานะ
  • ส่งข้อเสนอเฉพาะบุคคลแบบเชิงรุก
  • จัดการรีวิวและข้อเสนอแนะจากลูกค้า
  • เชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดียหลากหลายแพลตฟอร์ม
  • ติดตั้งใช้งานได้รวดเร็ว ไม่ซับซ้อน

กลุ่มเป้าหมาย: เหมาะสำหรับแบรนด์อีคอมเมิร์ซที่กำลังเติบโต ซึ่งต้องการยกระดับความพึงพอใจของลูกค้าและเพิ่มรายได้ด้วยระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI

กล่าวโดยสรุป Yuma ช่วยให้แบรนด์อีคอมเมิร์ซนำ AI ไปใช้ในทุกขั้นตอนของการสื่อสารกับลูกค้า เพิ่มรายได้และคะแนนความพึงพอใจ (CSAT)

บทสรุป

การนำ AI มาใช้ในบริการลูกค้าอีคอมเมิร์ซกลายเป็นภารกิจที่ขาดไม่ได้ แชทบอทจะกลายเป็นเครื่องมือหลักในการบริการลูกค้าของ 25% ของบริษัทภายในปี 2027

แพลตฟอร์ม AI สำหรับบริการลูกค้าอีคอมเมิร์ซที่แนะนำข้างต้น สามารถช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จาก AI และปรับปรุงกระบวนการซัพพอร์ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบรรดาทั้งหมด เราขอแนะนำ GPTBots เพราะเป็นแพลตฟอร์มแบบครบวงจรสำหรับสร้าง AI Agent อัจฉริยะ เพื่อจัดการคำถามซัพพอร์ต อัตโนมัติการกำหนดเส้นทางอย่างชาญฉลาด ลดงานซ้ำ และอื่น ๆ อีกมากมาย

ถึงเวลาลงมือจริงแล้ว เข้าไปที่ GPTBots.ai และเริ่มยกระดับบริการลูกค้าอีคอมเมิร์ซของคุณด้วยพลังของ AI

ขอรับเดโมธุรกิจ